ชลประทานเชียงใหม่ คาด คืนนี้ระดับน้ำปิงตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุด P.1 จะขึ้นสูงสุดราว 5.20 เมตร ช่วงตี 1 และจะแผ่ขยายไปยังอำเภอรอบข้าง ผู้ว่าฯ สั่งทุกหน่วย เตรียมรับมือและปฏิบัติการตามแผนสถานการณ์รุนแรง ขั้นสูงสุด
.
วันนี้ (4 ต. ค. 67) ที่ ศูนย์บริหารจัดการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ (CM FORCE) ซึ่งตั้งอยู่ภายในสำนักงานแขวงกาวิละ ต.วัดเกต อ.เมืองเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายอัศนี บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ นายอำเภอ ส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันประชุมติดตามการคาดการณ์สถานการณ์น้ำ หลังจากมีฝนตกหนักต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีมวลน้ำก้อนใหญ่จากพื้นที่ทางตอนเหนือ ไหลเข้ามายังพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ในช่วงค่ำวันนี้ เพื่อยกระดับการเผชิญเหตุ
.
โดย นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ตลอดเมื่อวานนี้ (3 ต.ค. 67) มีปริมาณฝนตกหนักเกินกว่าที่คาดไว้ โดยเฉพาะในพื้นที่โซนเหนือที่ อ.เชียงดาว และ อ.แม่แตง ที่ตกเฉลี่ยมากถึง 150-200 มิลลิเมตร ซึ่งจะทำให้มีมวลน้ำขนาดใหญ่ไหลเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่มากกว่าที่เคยผ่านมา โดยจากการคาดการณ์ของชลประทาน คาดว่า น้ำจะสูงขึ้นอีกราว 30 เซนติเมตร ทำให้ระดับน้ำปิงที่จะผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ที่สถานีวัดระดับน้ำที่จุด P.1 สะพานนวรัฐ จะขึ้นสูงสุดในระดับ 5.20 เมตร ในช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ของคืนนี้ มีอัตราการไหลของน้ำเฉลี่ยถึง 800-900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และน้ำจะแผ่ขยายตัวออกเป็นวงกว้าง ทำให้ไม่ใช่เพียงแค่พื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่เท่านั้นที่จะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมสูง แต่ยังส่งผลกระทบไปยังอำเภอข้างเคียง เช่น อำเภอแม่ริม อำเภอสันทราย รวมถึงอำเภอทางตอนใต้ เช่น อำเภอหางดง สารภี และสันป่าตอง
.
ขณะเดียวกันทางอุตุนิยมวิทยา ยังคาดการณ์ว่า วันนี้จะยังมีปริมาณฝนตกกว่าร้อยละ 60 ของพื้นที่ ดังนั้น จึงฝากให้ทุกอำเภอที่เสี่ยงได้รับผลกระทบ ตรวจเช็คปริมาณน้ำฝน แต่ไม่ใช่แค่เพียงที่จุดวัดน้ำในเขตตัวอำเภอและเทศบาลเท่านั้น แต่ให้มองไปถึงยังปริมาณฝนที่ตกบนยอดดอยด้วย ซึ่งจะทำให้ประเมินสถานการณ์น้ำได้ครอบคลุมมากขึ้น โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือและปฏิบัติตามแผนสถานการณ์รุนแรงขั้นสูงสุด
.
โดยในเบื้องต้นได้สั่งการให้ตำรวจและแขวงทางหลวงดูแลในเรื่องของการสัญจร การปิดกั้นเส้นทางการจราจร การอำนวยความสะดวก และคอยเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนให้เลี่ยงการนำรถขนาดเล็กเข้าในพื้นที่น้ำท่วม พร้อมทั้งให้ประชาชนเคลื่อนย้ายรถที่จอดอยู่ตามสะพานหรือจุดที่เสี่ยงน้ำเข้าถึง ให้ย้ายไปจอดยังพื้นที่ปลอดภัย ส่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ให้เร่งเคลียร์ท่อระบายน้ำ ถนน และสะพานให้สะอาด เพื่อเปิดทางรองรับการระบายน้ำ ส่วนเสาไฟฟ้าที่ล้ม ให้การไฟฟ้าเข้าไปตรวจสอบแก้ไข และดูแลจุดเสี่ยงที่อาจเกิดอันตรายจากกระแสไฟฟ้า ส่วนเขตพื้นที่ตัวเมือง เทศบาลนครต้องปรับแผนการขนส่งและการลำเลียงอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของต่างๆ ให้ประชาชน โดยใช้รถยกสูงรวมถึงเรือในการขนส่งลำเลียงอาหารเข้าไปให้พี่น้องประชาชนให้ครอบคลุมทุกครัวเรือน เนื่องจากขณะนี้รถเล็กไม่สามารถเข้าไปส่งของได้เช่นเดิมแล้ว โดยกำชับว่าต้องขับช้าๆ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อข้าวของและบ้านเรือนประชาชน
.
ทั้งนี้ จากปริมาณน้ำฝนที่มากเกินกว่าที่คาดไว้ จึงทำให้เป้าหมายที่วางไว้ว่าจะคลี่คลายได้ภายใน 3-4 วัน อาจจะต้องยืดระยะเวลาไปอีก ซึ่งต้องขอความร่วมมือทุกภาคส่วนที่ไม่มีภารกิจจำเป็น ให้ออกมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนก่อน เพื่อให้พี่น้องประชาชนบรรเทาความเดือดร้อนให้เร็วที่สุด
.