"นิตยสารไทม์ " ประกาศยกย่องผู้นำหน้าใหม่ที่ทรงอิทธิพล มีชื่อ"แพทองธาร"ติดเป็น 1 ใน 100 ผู้ทรงอิทธิพลของโลก รมว.กต.เผยนายกฯ บินขึ้นเวทีผู้นำ ACD ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ พร้อมกล่าวถ้อยแถลง และร่วมหารือทวิภาคีนานาประเทศ
เมื่อวันที่ 3 ต.ค.67 นิตยสารไทม์ (Time) ประกาศรายชื่อ 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลแห่งอนาคต Times 100 Next เพื่อยกย่องผู้นำหน้าใหม่ 100 ราย จากทั่วโลก โดยแบ่งแยกออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ ศิลปิน (Artists) ผู้สร้างปรากฏการณ์ (Phenoms) ผู้สร้างนวัตกรรม (Innovators) ผู้นำ (Leaders) และผู้ให้การสนับสนุน (Advocates) โดยในปีนี้ มีชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ติดอันดับในประเภทผู้นำ (Leaders) โดยนิตยสารไทม์ ระบุว่า น.ส.แพทองธารสร้างประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ 18 ส.ค.67 เพียงไม่กี่วันก่อนถึงวันเกิดปีที่ 38 ของเธอ ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีของไทย และผู้นำหญิงที่อายุน้อยที่สุดในเอเชีย ซึ่ง ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าตกใจนักเพราะน.ส.แพทองธารเป็นลูกสาวคนเล็กของ นายทักษิณ ชินวัตร เจ้าพ่อสื่อมหาเศรษฐี ที่ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2544 และถูกโค่นล้มในอีก5 ปีต่อมา
วันเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก นิตยสาร Influencer Magazine UK โพสต์ภาพข้อความระบุว่า LISA Wins 'Influencer of the Year' at IMA 2024! คะแนนโหวตออกมาแล้ว และรางวัล Influencer Magazine Awards (IMA) 2024 ก็ได้ผู้ชนะคนใหม่แล้ว! LISA Manobal ได้รับรางวัล Influencer of the Year โดยได้รับคะแนนโหวตถึง 38% จากคะแนนโหวตทั้งหมด
ผลการโหวตรอบสุดท้าย: LISA Manobal: 38%, Taylor Swift: 35%, Kylie Jenner: 13%, Selena Gomez: 9%, Dua Lipa: 3%, Billie Eilish: 1%, MrBeast: 1% Stokes Twins: 0%
การแข่งขันสูสีมาก โดย Taylor Swift จบอันดับสองด้วยคะแนนโหวต 35% ทั้งสองดาราทุ่มสุดตัว แต่ฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นของ LISA ช่วยให้เธอคว้าชัยชนะในช่วงนาทีสุดท้ายของการโหวต
ลิซ่า ซูเปอร์สตาร์ระดับโลกและสมาชิกของ BLACKPINK ได้พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่าเธอมีอิทธิพลอย่างมากในวงการเพลง แฟชั่น และโซเชียลมีเดีย แฟนๆ ของเธอที่รู้จักกันในชื่อ LILIES คอยสนับสนุนเธอตลอดช่วงเวลาการลงคะแนน ช่วยให้เธอคว้าตำแหน่งสูงสุดในรางวัลอันทรงเกียรติของปีนี้
ขอขอบคุณทุกคนที่เข้าร่วมและลงคะแนน ทำให้การแข่งขัน IMA ปีนี้น่าตื่นเต้นและสูสีอย่างแท้จริง โปรดติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับหมวดหมู่และรางวัลที่จะมาถึงของเรา ขณะที่เรายังคงเฉลิมฉลองให้กับบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดทั่วโลก โดยลิซ่าได้ดึงดูดผู้คนนับล้านด้วยพรสวรรค์ สไตล์ และเสน่ห์ของเธอ ชัยชนะของเธอในการแข่งขัน IMA 2024 เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงผลกระทบอันเหลือเชื่อที่เธอสร้างไว้ ไม่เพียงแต่ในโลกบันเทิงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงหลายอุตสาหกรรมด้วย
สำหรับการแข่งขัน IMA 2024 เป็นการแข่งขันที่สูสีที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ โดยที่เทย์เลอร์ สวิฟต์ได้คะแนน 35% การแข่งขันระหว่างซูเปอร์สตาร์ระดับโลกทั้งสองคนนี้ช่างน่าตื่นเต้นยิ่งนัก ทั้ง LILIES ของ LISA และ Swifties ของ Taylor ต่างก็มาอย่างล้นหลาม ทำให้กระบวนการโหวตในปีนี้เป็นกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง แม้ว่าอิทธิพลของ Taylor Swift จะปฏิเสธไม่ได้ แต่ความสามารถของ LISA ในการก้าวไปข้างหน้าแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนจากทั่วโลกอย่างเหลือเชื่อที่เธอได้รับ
ส่วนความเคลื่อนไหวของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางร่วมประชุม Asia Cooperation Dialogue หรือ ACD ครั้งที่ 3 ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ วันเดียวกัน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ซึ่งร่วมคณะเดินทางกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เปิดเผยกำหนดการสำคัญของนายกรัฐมนตรี ในการร่วมประชุมในวันเดียวกันนี้ ว่า นายกรัฐมนตรีมีกำหนดหารือทวิภาคี หรือ Bilateral ร่วมกับผู้นำอิหร่าน ในฐานะที่เป็นประธาน ACD ปีนี้ รวมถึงผู้นำคูเวต กาตาร์ และประเทศทาจิกิสถาน
นอกจากนี้ ในเวลาประมาณ 14.20 น. ตามเวลาประเทศไทย นายกรัฐมนตรีจะขึ้นกล่าวถ้อยแถลงในนามประเทศไทย ซึ่งเคยเป็นเจ้าภาพการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ 2 เมื่อปี 2559 มาก่อน และในฐานะประธาน ACD ที่จะเริ่มต้นในวันที่ 1 ม.ค.68 โดยนายกรัฐมนตรีต้องการผลักดันให้ ACD เป็นเวทีการหารือระดับนโยบาย เพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศในทวีปเอเชีย ส่งเสริมผลประโยชน์ร่วมกัน และเป็นเวทีที่ประเทศสมาชิกสามารถแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นด้วยความเข้าใจและไว้เนื้อเชื่อใจ เพื่อแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาความท้าทายของโลก รวมทั้งความท้าทายจากการแข่งขันเชิงภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศมหาอำนาจร่วมกัน
นายมาริษ ยังกล่าวด้วยว่า ACD ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2545 โดยการริเริ่มของไทย ปัจจุบันมีสมาชิก 35 ประเทศ ซึ่งวัตถุประสงค์ และความสำคัญของ ACD นั้น เป็นเวทีหารือระดับนโยบายและความร่วมมือระหว่างประเทศในทวีปเอเชียที่ประเทศสมาชิกสามารถแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น และหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาความท้าทายต่าง ๆ ของโลก ส่งเสริมความเข้าใจ ความไว้เนื้อเชื่อใจ และผลประโยชน์ร่วมกัน และเป็นเวทีเดียวในเอเชียที่เชื่อมโยงประเทศในทุกพื้นที่ของทวีปเอเชีย (Pan-Asian Forum) และกรอบความร่วมมือในอนุภูมิภาคต่าง ๆ อาทิ BRICS, ASEAN และ CICA เป็นต้น
นายมาริษ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังคงติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง เนื่องจากมีความห่วงกังวลต่อพลเมือง และสถานการณ์ด้านมนุษยธรรม โดยได้ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่าย ใช้ความอดกลั้นอย่างสูงสุด และยุติการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ เพื่อไม่ให้สถานการณ์ความขัดแย้งลุกลามบานปลาย และยังแสดงความห่วงใยต่อความปลอดภัยของคนไทยที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงในตะวันออกกลาง จึงกำชับให้คนไทยในพื้นที่ทุกคนติดตาม และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการท้องถิ่น และสถานเอกอัครราชทูตไทยอย่างเคร่งครัด