รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามน้ำท่วมเมืองเชียงราย และแม่สาย

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 3 ตุลาคม  2567 นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย  พร้อมด้วยคณะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียราย   โดยได้เดินทางไปยังพื้นที่บ้านนางแลใน  และบ้านลิไข่ ตำบลนางแล อำเภอเมืองเชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในลำห้วยนางแล ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ไหลหลากเข้าท่วมหมู่บ้านและถนนพหลโยธินสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน  เพื่อพิจารณาแนวทางการป้องกนและแก้ไขในระยะยาว  พร้อมกันนี้ยังได้มอบถุงยังชีพแก่ราษฎรผู้ประสบภัยในพื้นที่เพื่อขวัญและกำลังใจ

โดยนางศรีธร หน่อแก้ว อายุ 65 ปี ชาวบ้านนางแลใน หมู่ 17  กล่าวว่า ในพื้นที่น้ำป่าไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อย ส่วนใหญ่จะเกิดในช่วงฤดูฝนประมาณช่วงเดียวกันนี้ แต่ส่วนมากก็มีน้ำท่วมเพียงเล็กน้อยเต็มที่ก็ท่วมถึงหัวเข่า แต่ปีนี้น้ำไหลจากสันเขามามากทั้งไหลเชี่ยวและท่วมสูง 1-2 เมตร ทำให้ชาวบานตั้งตัวไม่ทัน แม้จะมีการยกของที่สูงแต่ก็ได้รับความเสียหายทั้งหมด  ส่วนมากเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ครัวเรือน  และอุปกรณ์สำหรับการเกษตร  และตอนนี้ยังมีน้ำหลากจากบนดอยบ้านลิไข่มาเป็นระยะทำให้ชาวบ้านหวาดกลัวมาก นอนไม่ค่อยหลับ ต้องพึ่งการกินยา แต่ก็มีการเตรียมรับมือโดยย้ายทรัพย์สินมีค่าและสัตว์เลี้ยงไปไว้บ้านญาติที่อยู่บนที่สูง ส่วนคนยังอยู่ที่บ้าน แต่หากมีฝนตกหนักหรือมีน้ำขึ้นก็จะอพยพออกนอกพื้นที่ทันที เพราะสปิลเวย์พังเสียหายหากน้ำมาอีกก็จะเข้าท่วมหมู่บ้านทันที

ทางด้านนางสาวธีรรัตน์  สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้มาดูน้ำตกนางแลใน เพื่อประเมินสถานการณ์น้ำ เพื่อการตั้งรับในพื้นที่ ซึ่งหลายพื้นที่มีการเตรียมความพร้อมรับมือดีอยู่แล้ว แต่ก็ต้องเฝ้าระวังไปตลอดจนกกว่าจะคลี่คลาย โดยประชาชนพื้นที่ต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉินด้านไหนก็ขอให้แจ้งมาหน่วยงานภาครัฐ หรือผ่านเพจของกรมประชาสัมพันธ์ก็ได้  ซึ่งลำน้ำหรือลำห้วยต่าง ๆ รวมถึงน้ำกก ที่ขณะนี้ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรในการช่วยเปิดทางน้ำและสูบน้ำเพื่อระบายให้ไหลผ่านพื้นที่เร็วที่สุดไม่ให้กระทบต่อพื้นที่ โดยขอให้ประชาชนติดตาสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

นางสาวธีรรัตน์  กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีน้ำสายทะลักเข้าท่วมพื้นที่อีกรอบขณะนี้ให้ทางที่ปรึกษา นำกำลังลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ภาคส่วนต่างๆ กั้นและเสริมแนวบิ๊กแบ็ค ตลอดจนอุดรูรั่วป้องกันน้ำเข้าเมืองให้ได้น้อยที่สุด โดยขอความร่วมมือประชาชนในบางจุดอาจต้องกั้นแบ็คแบ็คตามบ้านเรือนประชาชน และของให้ประชาชนอพยพมาอยู่ในจุดพักพิงเพื่อความปลอดภัย และสะดวกในการช่วยเหลือ ตอนนี้ยังคงต้องดูสถานการณ์ก่อนหากน้ำมาในปริมาณมากจน ปิดไม่อยู่  ชีวิตประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นจะมีระดมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อส.และภาคส่วนต่างๆเข้าไปถึงพี่น้องประชาชนเพื่อให้การช่วยเหลือให้ได้มากที่สุด

นางสาวธีรรัตน์   กล่าวด้วยว่า เดิมที่ทางเราคาดว่าฝนจะมาไม่เยอะจึงวางแผนการพื้นฟูอย่างเป็นระบบ ฝนตกมาบ้างจะเป็นการชำระโคลนออกไปบ้าง แต่เมื่อฝนตกเยอะมีน้ำท่วมขังและน้ำล้นมาท่วมเพราะท่อระบายอุดตันไม่มีที่ระบายอาจกระทบกับกำหนดการบ้าง แต่เชื่อว่ายังอยู่ในกรอบอยู่ แต่ทั้งนี้ต้องดูจังหวะฝนอีกนิดหนึ่ง หากการพยากรณ์ว่าฝนจะหยุดตกในวันนี้ไม่เปลี่ยนแปลง หลังจากวันนี้ไปอะไรก็จะดีขึ้น  โดยทางภาครัฐยืนยันว่ากำลังเครื่องจักรในการเข้ามาดูแลช่วยเหลือ ตลอดจนการฟื้นฟูนั้นมีเพียงพอ หากจุดไหนไม่เพียงพอทางกระทรวงก็พร้อมจะเรียกกำลังหรือเครื่องจักรเข้าเสริมให้ทันที.