ร่วมฉลองชื่นมื่นกันทั่วถิ่นลุงแซม

สำหรับ งานเฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดของ “จิมมี คาร์เตอร์” อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งในปีนี้เขาก็มีอายุครบ 100 ปี เมื่อช่วงกลางสัปดาห์นี้

นายจิมมี คาร์เตอร์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเป็นภาพที่ถ่ายในงานศพภริยาของเขาเมื่อปีที่แล้ว ในขณะที่มีอายุ 99 ปี ย่างเข้าสู่ 100 ปี (Photo : AFP)

ท่ามกลางความยินดีปรีดาของประชาชนชาวอเมริกัน เพราะมีให้เห็นกันไม่บ่อยนัก ที่คนระดับอดีตประมุขประเทศ จะมีอายุยืนยาวถึง 100 ปี กันเยี่ยงนี้

อย่างไรก็ดี ชาวอเมริกันเหล่านี้ ก็มีความเป็นห่วงเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของเขาตามวัยของคนที่อายุมากขนาดนี้

โดยนายเจสัน คาร์เตอร์ หลานชายของอดีตประธานาธิบดีคาร์เตอร์ ซึ่งทำหน้าที่ดูแลผู้เป็นปู่ ก็ระบุว่า พละกำลังทางกายภาพของคุณปู่จิมมี ก็ลดน้อยถอยลงไปมาก ด้วยประการฉะนี้ อดีตประธานาธิบดีคาร์เตอร์ ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการดูแลอย่างใกล้ชิดในบ้านพักรับรองที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้สำหรับระยะสุดท้ายของชีวิต ซึ่งก็มิใช่ที่ใดที่ไหนอื่น แต่เป็นบ้านพักของเขาในย่านวูดแลนด์ไดรว์ เมืองเพลนส์ รัฐจอร์เจีย นั่นเอง โดยอดีตประธานาธิบดีคาร์เตอร์ได้เข้ากระบวนการดูแลตั้งแต่เมื่อ 19 เดือนที่แล้วเป็นต้นมา

ทว่า แม้พละกำลังทางกายภาพถดถอยตามสภาพของคนที่มีอายุยืนยาวถึง 1 ศตวรรษ แต่นายเจสัน คาร์เตอร์ ก็ระบุว่า สภาพจิตใจและพลังสมองของเขายังดีเยี่ยม

โดยนายเจสัน คาร์เตอร์ ผู้เป็นหลาน ระบุด้วยว่า อดีตประธานาธิบดีปู่ของเขานั้น ยังสนใจการเมือง โดยยังติดตามข่าวสาร และวิพากษ์วิจารณ์การเมืองของสหรัฐฯ ได้อยู่ และมิใช่แต่เฉพาะการเมืองเท่านั้น แม้กระทั่งสงครามระหว่างประเทศ เช่น สงครามฉนวนกาซา ซึ่งเป็นการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์ คุณปู่อดีตประธานาธิบดี ก็ให้ความสนใจคอยติดตามข่าวสารและพูดถึงอยู่บ่อย

ว่ากันในส่วนของการเมืองในสหรัฐฯ นั้น นายเจสัน คาร์เตอร์ ระบุว่า อดีตประธานาธิบดีคุณปู่ของเขา ยังเป็นแฟนของพรรคเดโมแครตอย่างเหนียวแน่น โดยคุณปู่ ได้เคยกล่าวว่า จะพยายามลากสังขารเพื่อไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 (พ.ศ. 2567) ที่จะมีขึ้นในวันอังคารที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ที่คูหาเลือกตั้งให้จงได้

แน่นอนว่า เมื่อเป็นหนึ่งในแฟนานุแฟนของพรรคเดโมแครตอย่างเหนียวแน่น ก็คงจะกาบัตรเลือกตั้ง เพื่อเลือกใครอื่นไปไม่ได้ ต้องเป็น “นางกมลา แฮร์ริส” รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบัน ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แห่งพรรคเดโมแครตเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ที่อดีตประธานาธิบดีคาร์เตอร์จะไปกาบัตรลงคะแนนให้

ส่วนงานเฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดของอดีตผู้นำสหรัฐฯ รายนี้นั้น ก็มีขึ้นในหลายพื้นที่ด้วยกัน แม้กระทั่งในทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของประเทศ ก็ได้ร่วมเฉลิมฉลองกันอย่างชื่นมื่นด้วย นอกเหนือจากเมืองเพลนส์ รัฐจอร์เจีย ถิ่นพำนักของอดีตประธานาธิบดีคาร์เตอร์

นอกจากนี้ ก่อนหน้าที่จะถึง “วันที่ 1 ตุลาคม” อันเป็น “วันที่” ตรงกับวันคล้ายวันเกิดของอดีตประธานานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ จริงๆ นั้น ก็ได้มีการจัดงานฉลองกันไปแล้วล่วงหน้า

อาทิเช่น งานแสดงสดทางดนตรี หรือคอนเสิร์ต ฉลองวันเกิดอดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ ที่หอประชุมฟ็อกซ์ ในนครแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย เมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา

โดยภายในงานเฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดข้างต้นนั้น ก็มีกลุ่มคนที่เคยทำงานร่วมกับนายคาร์เตอร์ เมื่อครั้งที่เป็นประธานาธิบดีในภาคส่วนต่างๆ เรียกว่า “กลุ่มผองเพื่อนของจิมมี คาร์เตอร์ (Friends of Jimmy Carter)” มาร่วมงาน โดยกลุ่มคนเหล่านี้ ก็มาบอกเล่าถึงประสบการณ์การทำงานในระหว่างที่พวกเขาร่วมงานกับอดีตประธานาธิบดีผู้นี้ รวมไปถึงบางคนที่มีความสามารถทางดนตรี และร้องเพลง ก็ร่วมร้องรำทำเพลงกันบนเวทีอย่างสนุกสนานครื้นเครง

ทั้งนี้ ในงานเฉลิมฉลองวันคล้ายวันเกิดวันจริงของอดีตประธานาธิบดีคาร์เตอร์ เมื่อวันอังคารที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา “กลุ่มผองเพื่อนจิมมี คาร์เตอร์” ก็ได้มาบรรเลงขับกล่อมแขกเหรื่อที่มาร่วมงานกันอีกครั้ง ณ เมืองเพลนส์ รัฐจอร์เจีย ซึ่งภายในงานได้มีกิจกรรมต่างๆ แม้กระทั่งกองทัพอากาศสหรัฐฯ ก็ยังฝูงบินรบ ระดับฝูงบินขับไล่ “เอฟ-18” มาบินโชว์อย่างยิ่งใหญ่ เหนือน่านฟ้าของเมืองเพลนส์ รัฐจอร์เจียในวันดังกล่าวด้วย

กล่าวถึงประวัติและผลงานโดยสังเขปของนายจิมมี คาร์เตอร์ ทั้งในระหว่างดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และพ้นจากทำเนียบขาวกลายเป็นอดีตประธานาธิบดีไปแล้ว

โดยนายคาร์เตอร์ เกิดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 1924 (พ.ศ. 2467) ที่เมืองเพลนส์ รัฐจอร์เจีย และเติบโตที่เมืองแห่งนี้ จากนั้นไปศึกษาที่โรงเรียนนายเรือสหรัฐฯ ซึ่งในระหว่างนี้เขาเคยร่วมผ่านศึกในสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย ก่อนจบการศึกษาเมื่อปี 1946 (พ.ศ. 2489) โดยประจำการในเรือดำน้ำ กองทัพเรือสหรัฐฯ กระทั่งบิดาของเขาเสียชีวิตจึงได้ลาออกมา ซึ่งในขณะนั้นเขาติดยศเรือเอก และมารับธุรกิจทำฟาร์มถั่วลิสงต่อจากบิดาของเขาที่เมืองเพลนส์บ้านเกิด

จากนั้นนายคาร์เตอร์ ได้ไปศึกษาต่อที่เมืองแอนนาโปลิส รัฐแมริแลนด์ จนจบปริญญาโท และได้เข้าสู่ถนนการเมืองด้วยการได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐจอร์เจีย รัฐบ้านเกิดของเขา เมื่อปี 1970 (พ.ศ. 2513) ก่อนที่ในอีก 6 ปีต่อมาเขาชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในนามผู้สมัครฯ พรรคเดโมแครต เหนือนายเจอรัลด์ ฟอร์ด คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน เมื่อปี 1976 (พ.ศ. 2519)

นายจิมมี คาร์เตอร์ ในวันประกาศชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 1976 (พ.ศ. 2519) Photo : AFP)

ในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งมีผลงานทั้งบวกและลบ โดยผลงานด้านบวก คือ การจัดประชุมสันติภาพระหว่างกลุ่มชาติอาหรับกับอิสราเอล ที่แคมป์เดวิด เมื่อปี 1979 (พ.ศ. 2522) การสนับสนุนแผนสันติภาพอียิปต์กับอิสราเอล ส่วนผลงานด้านลบ ได้แก่ เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ในอิหร่านถูกจับในเหตุการณ์ปฏิวัติอิสลามในอิหร่าน เมื่อปี 1979 และการเกิดวิกฤติน้ำมันโลก ตลอดจนปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ตกต่ำ ซึ่งเหตุปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้แก่นายโรนัลด์ เรแกน คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน เมื่อปี 1981 (พ.ศ. 2524)

นายจิมมี คาร์เตอร์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับบทบาทในฐานะผู้ก่อตั้งศูนย์คาร์เตอร์ หรือคาร์เตอร์เซ็นเตอร์ จนส่งผลให้เขาได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ในเวลาต่อมา (Photo : AFP)

อย่างไรก็ตาม แม้ลงจากตำแหน่งประธานาธิบดีมาแล้ว นายคาร์เตอร์ ก็ยังคงทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ และกับโลก ผ่านองค์กรที่มีชื่อว่า “ศูนย์คาร์เตอร์ (Carter Center)” ที่ดูแลเกี่ยวกับการสร้างสันติภาพโลก สิทธิมนุษยชน การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย การต่อสู้กับโรคร้ายในภูมิภาคต่างๆ ของโลกเรา จนทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ เมื่อปี 2002 (พ.ศ. 2545)

นายจิมมี คาร์เตอร์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ประจำปี 2002 (พ.ศ. 2545) ที่กรุงออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์ (Photo : AFP)