วัยรุ่นสองกลุ่มนัดเคลียร์ปัญหาไม่ลงตัว ชักปืนไล่ยิงไม่สะใจ ตามประกบยิงซ้ำกว่า 30 นัด ดับ 1 เจ็บ 5

   เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 2 ตุลาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุมีเหตุยิงกัน มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนสาย สป2001 หรือ ถนนสายศรีวารีน้อย หลักกิโลเมตรที่ 10 ทิศทางมุ่งหน้าลาดกระบัง 54 ตำบลศีรษะจรเข้น้อย อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึง รายงาน พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผู้กำกับ สภ.บางเสาธง พร้อมประสาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 เจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลบางเสาธง เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่นิติเวช เดินทางตรวจที่เกิดเหตุ

     ในที่เกิดเหตุบนถนน พบผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย เป็น หญิง 1 ราย ถูกเฉี่ยวที่แขน และ ชาย 2 ราย ถูกยิงเข้าที่หลังและขา เจ้าหน้าที่กู้ชีพให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ใกล้กันพบ รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า แคมรี่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร จอดอยู่เลนซ้าย สภาพยางหลังขวาแตก ถูกยิงกว่า 30 จุด ที่หลังคารถ ฝ่ากระโปรงหน้า กระจกหน้า กันชนหน้าฝั่งขวา ประตูหน้ากับหลังฝั่งขวา กระจกหน้ากับหลังฝั่งขวา กระจกหลัง ฝากระโปรงหลัง และที่ฝาถังน้ำมัน ประมาณ ภายในรถฝั่งคนขับพบ ผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เป็นชาย นอนหมดสติ เจ้าหน้าที่กู้ชีพให้การช่วยเหลือปั้มหัวใจอยู่นานแต่สุดท้ายทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ที่บริเวณหน้า พบปลอกกระสุนปืนสั้นขนาด 9 มม. จำนวน 3 ปลอก และที่ด้านข้างรถ พบปลอกกระสุนปืนสงครามยังไม่ชี้ชัดว่าเป็นขนาดใด ตกกระจายอยู่บนฟุตบาท จำนวน 3 ปลอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการปิดกั้นพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อให้พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเก็บวัตถุพยานและคราบดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุ โดยมีชาวบ้านเกือบร้อยคนยืนมุ่งดูเหตุการณ์ในครั้งนี้

          

คลิปจากชาวบ้าน คลิปวีดีโอที่พลเมืองดีใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพเหตุการณ์ระทึกขวัญกลางถนนเอาไว้ได้ โดยคลิปแรกเป็นพลเมืองดีท่านหนึ่งใช้โทรศัพท์บันทึกเหตุการณ์ในขณะที่มีการขับรถตามมาประกบกระหน่ำจ่อยิงใส่รถอีกฝ่ายจนเสียงปืนดังรัวสนั่น ทำให้หลายคนที่อยู่ในละแวกที่เกิดเหตุที่หน้าร้านสะดวกซื้อต้องหาที่กำบังหลบกระสุนและหนีตายเข้าในร้านสะดวกซื้อ ขณะที่อีกคลิปค่อนข้างชัดเจนพบว่ากลุ่มมือปืนซึ่งเป็นชาย อายุราว 30 ปี สวมเสื้อยืดสีดำทุกคนขับขี่และโดยสารกันมาในรถอเนกประสงค์ ยี่ห้อ อีซูซุ สีบรอนซ์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนได้จอดรถประกบอีกฝ่ายก่อนที่ชายในรถทั้งหมดจะลงมาจากรถแล้วมีหนึ่งในนั้นถือปืนไม่ทราบขนาดลงมากระหน่ำยิงหลายนัดใส่อีกฝ่าย โดยจากคลิปยังพบว่านอกจากรถเอนกประสงค์ อีซูซุ แล้วยังมีรถเอนกประสงค์ โตโยต้า สีขาว อีกคันที่ขับสวนทางมาแล้วจอดปิดหัวท้าย ก่อนที่ชายในรถฝั่งที่นั่งมาเบาะหน้าซ้ายจะเดินลงมาจากรถแล้วได้ยินเสียงปืนตามมาอีกครั้ง ภาพอีกมุมจะเห็นว่านอกจากนั้นยังมีรถเอนกประสงค์ มิซูบิชิ สีเทาบรอนซ์ อีกคันที่พยายามจะขับหลบหนีแต่ถูกฝ่ายของกลุ่มมือปืนขับรถขวางและจ่อยิ่งใส่อีกหลายนัด จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดจึงพากันแยกย้ายหลบหนี

      จากการสอบถาม พลเมืองดี หลายท่านให้ข้อมูลตรงกันว่าทั้งสองฝ่ายเหมือนได้ยิงกันมาตามทางหลายนัดกระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุในจุดดังกล่าวรถเก๋งสีขาวโตโยต้าที่ไปต่อไม่ได้เพราะยางหลังถูกยิงจนแตกและกระสุนพุ่งเจาะจากด้านหลังรถถูกผู้โดยสารในรถบาดเจ็บกระระนาวซึ่งหนึ่งในนั้นคือคนขับรถจึงทำให้รถต้องจอดสงบนิ่ง ก่อนจะถูกกลุ่มมือปืนขับตามาประกบแล้วกระหน่ำยิงซ้ำอีกหลายนัด โดยกลุ่มของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บมากันทั้งหมด 2 คัน รวม 7 คน ส่วนกลุ่มมือปืนมากันสองคันเช่นกันอีกคันตามยิงและประกบยิงอีกคันขับมาจอดดักหน้า

             

           ด้าน พล.ต.ต. วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี รองผู้บังคับการ / ผู้กำกับสืบจังหวัด / พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผู้กำกับ สภ.บางเสาธง / และฝ่ายสืบสวนทั้งจากสืบภาค สืบจังหวัด และ สืบ สภ.บางเสาธง ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและหาเบาะแสของกลุ่มมือปืนรายนี้ จากการไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและสืบสวนข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตาย คือ นาย ประพจน์  (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี เป็นคนขับรถ ซึ่งรถเก๋ง โตโยต้า สีขาว ที่มีผู้ตายขับขี่มานั้นภายในรถมี เพื่อนนั่งมากันทั้งหมด 5 คน เป็นชาย 4  หญิง 1  ซึ่งถูกยิงสองและปลอดภัย 3 คน ส่วนผู้บาดเจ็บอีกสองคนที่ขับรถและโดยสารมาในรถเอนกประสงค์ มิซูบิชิ นั้นถูกยิงเข้าที่ขมับสองนัดคนหนึ่ง ส่วนอีกคนถูกยิงเข้าที่กลางอกหลังถูกยิงจึงพยายามขับรถมาโรงพยาบาลด้วยตัวเอง ส่วนปมเหตุขณะนี้ยังไม่ตัดประเด็นอะไรทิ้ง ตอนนี้ได้สั่งการระดมฝ่ายสืบสวนเร่งไล่ล่าตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว คาดจะติดตามตัวได้ไม่ยากเพราะมีหนึ่งในกลุ่มของผู้บาดเจ็บนั้นรู้จักรกันกับหนึ่งในกลุ่มมือปืน ซึ่งขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงานคลี่คลายคดีนี้ก่อน ส่วนอาวุธที่ใช้คาดว่ามีอย่างน้อยสองกระบอกรวมถึงปืนสงครามไม่ทราบชนิดด้วย