กลุ่มดารา-นักร้อง-อินฟลูฯโร่แสดงความบริสุทธิ์ใจเข้าพบ ตำรวจปคบ. ยันไม่เกี่ยวข้องคดี แม่ตั๊ก ด้าน อัจฉริยะ จี้ดำเนินคดี เจ๊นุช มือขวา แม่ตั๊ก ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน พร้อมนำคลิปร่วมไลฟ์สดโฆษณาเกินจริงมอบจนท.ตรวจสอบ
เมื่อวันที่ 2 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไพศาล เรืองฤทธิ์ หรือ ทนายไพศาล ได้พานักร้องสาว เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น พร้อมบอล เชิญยิ้ม และอินฟลูเอนเซอร์ ผู้ใหญ่บ้าน ฟินแลนด์ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังเคยร่วมงานกับ น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือ แม่ตั๊ก พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง กับการกระทำความผิด พร้อมนำทรัพย์สินมีค่าที่เคยได้รับจากแม่ตั๊กและ นายกานต์พล เรืองอร่าม หรือป๋าเบียร์ มาส่งมอบให้กับตำรวจ เพื่อตรวจสอบที่มาและเส้นทางการเงินว่าได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่
เจนนี่ กล่าวว่า หลังพฤติกรรมของแม่ตั๊กถูกแฉ ตนก็ถูกกระแสโซเชียลมีเดียถล่มอย่างหนัก จึงอยากออกมาเคลียร์ทุกอย่างโดยเร็วที่สุด และหากตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นเงินผิดกฎหมาย ตนเองก็ยินดีที่จะคืนทรัพย์สินเหล่านี้
ด้าน นายไพศาล กล่าวว่า ดาราและอินฟลูเอนเซอร์ที่รู้ตัวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องแต่ยังไม่มาพบตำรวจ ก็ขอให้รีบมาพบ มิฉะนั้นจะเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง ฟอกเงิน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้นำพยานหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอ 8 คลิป ของ "เจ๊นุช" มือขวาของ น.ส.กรกนก หรือ"แม่ตั๊ก" ที่แสดงถึงการร่วมไลฟ์สดโฆษณาเกินจริงเกี่ยวกับอาหารเสริมลดน้ำหนัก และการโชว์ทรัพย์สินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรู และรถหรู รวมมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ไปมอบให้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคบ. เพื่อขอให้ตำรวจดำเนินคดีและขออนุมัติศาลออกหมายจับ "เจ๊นุช" ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ , ร่วมกันเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ , และร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค รวม 4 ข้อหา
โดย นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า "เจ๊นุช บางเตย" ได้ร่วมกับ "แม่ตั๊ก" ในการทำคอนเทนต์โชว์ทรัพย์สินและเงินต่างๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และได้รับผลประโยชน์เป็นทรัพย์สินต่างๆ รวมกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มแกนนำที่ร่วมกระทำความผิด จึงนำหลักฐานมายื่นให้ตำรวจดำเนินคดี
อย่างไรก็ตามยังมีผู้ร่วมขบวนการที่ต้องถูกดำเนินคดีอีกกว่า 20 คน ไม่รวมกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ที่ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการพิจารณารายบุคคลถึงเจตนา ส่วนสัปดาห์หน้าตนเองจะนำหลักฐานการกระทำความผิดของ "เจ๊หรั่ง" มือซ้ายของแม่ตั๊กไปมอบให้พนักงานสอบสวน พร้อมทั้งจะเดินทางไปร้องเรียน ปปง. เพื่อให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินและดำเนินคดีกับกลุ่มของแม่ตั๊ก ตามพ.ร.บ.ฟอกเงิน ฐานร่วมกันฟอกเงิน
ทั้งนี้ของฝากไปถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ออกคำสั่งรวมคดีแม่ตั๊กกับพวกทุกคดี ที่มีผู้เสียหายไปแจ้งความไว้ทั่วประเทศ ไปรวมที่ บก.ปคบ. เพื่อให้ประชาชนสามารถแจ้งความในภูมิลำเนาของตนเองได้ รวมถึงกรณีทรัพย์สินของแม่ตั๊ก ไม่ว่าจะเป็นตู้เซฟและรถหรูที่หายไป ก็มีตำรวจชั้นผู้ใหญ่หนุนหลัง และมีคดีที่ยังไม่ค้างคาอยู่ที่ ปปง. ดังนั้นขอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติออกมาเร่งรัดคลี่คลายเรื่องนี้
พร้อมกันนี้ นายอัจฉริยะ ยังกล่าวด้วยว่า ทุนที่แม่ตั๊กและป๋าเบียร์ สามีนำมาซื้อทรัพย์สิน ไม่ได้เกิดจากการค้าขายทั้งหมด แต่มาจากธุรกิจมืดของตำรวจ