“กรมการศาสนา”สำรวจศาสนสถานได้รับผลกระทบน้ำท่วม เร่งช่วยเหลือและฟื้นฟู

เมื่อวันที่ 2 ต.ค.67 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กรมการศาสนาได้รายงานผลการสำรวจศาสนสถานที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม 2567 พบว่า มีศาสนสถานที่ได้รับผลกระทบใน 19 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง หนองคาย สุโขทัย น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน อุดรธานี อุทัยธานี นครนายก กาญจนบุรี พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย และสมุทรปราการ รวม 357 แห่ง เป็น วัดในพระพุทธศาสนา 324 แห่ง มัสยิด 5 แห่ง และโบสถ์คริสต์ 28 แห่ง สภาพมีน้ำท่วมขังรอบบริเวณจากน้ำป่าไหลหลากที่เอ่อล้นเข้ามา พื้น ผนัง ชำรุด และสีหลุดร่อนซึ่งกรมการศาสนาจะได้ติดตามสำรวจศาสนสถานที่ได้รับผลกระทบอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยในเบื้องต้นได้กำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือ ศาสนสถานและศาสนิกชนที่ได้รับผลกระทบ ประกอบด้วย มาตรการช่วยเหลือเยียวยา และมาตรการฟื้นฟูความเสียหาย

ทั้งนี้ มาตรการช่วยเหลือเยียวยา มีเป้าหมายช่วยเหลือวัดในพระพุทธศาสนาและศาสนสถานของศาสนาอื่นๆ จะดำเนินการในเดือนตุลาคม 2567 โดยได้จัดเตรียมสมณบริขาร เครื่องอุปโภคบริโภค อาทิ ภัตตาหารสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง และยารักษาโรค นำไปถวายแด่พระสงฆ์ โดยส่งไปยังวัดซึ่งเป็นที่ทำการของเจ้าคณะจังหวัด เพื่อกระจายไปยังวัดต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงรายงานข้อมูลวัดที่ประสบภัยให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติพิจารณา ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์ ตามประกาศสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรื่อง การขอรับเงินอุดหนุนเพื่อการบูรณปฏิสังขรณ์ นอกจากนี้ การให้ความช่วยเหลือศาสนสถาน ได้แก่ มัสยิดของศาสนาอิสลาม โบสถ์ของศาสนาคริสต์  ศาสนสถานของศาสนาซิกข์ กรมการศาสนาได้ร่วมกับองค์การทางศาสนา 5 ศาสนา จะลงพื้นที่มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งของที่จำเป็นแก่ศาสนิกชนที่ประสบภัยในพื้นที่ภาคเหนือจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง รวมถึงพื้นที่ฅภาคกลางที่ได้รับผลกระทบ ภายใต้กิจกรรม “คาราวานศาสนนิกสัมพันธ์ร่วมใจ สู้ภัยน้ำท่วม” พร้อมทั้ง จะประสานกับมูลนิธิคริสตจักรคณะแบ๊บติสต์ และมูลนิธิคริสตจักรเซเว่นธ์เดย์แอ๊ดเวนตีสแห่งประเทศไทย จัดหน่วยตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ให้บริการแก่ผู้ได้รับผลกระทบ รวมถึงจัดกิจกรรมธรรมะอารมณ์ดี และการแสดงทางศิลปวัฒนธรรม เพื่อให้กำลังใจและคลายความวิตกกังวลจากสถานการณ์ โดยที่ผ่านมากรมการศาสนาได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือเยียวยา ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดแพร่

ส่วนมาตรการฟื้นฟูความเสียหายกรมการศาสนาเตรียมจัดสรรงบประมาณในการอุดหนุนบูรณะซ่อมแซมศาสนสถานของศาสนาอื่น นอกจากพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นภารกิจเฉพาะของกรมการศาสนาซึ่งปรากฏมัสยิดของศาสนาอิสลาม และโบสถ์ของศาสนาคริสต์ได้รับความเสียหาย โดยจะประสานสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสำรวจและส่งแบบคำขอรับเงินอุดหนุนซ่อมแซมให้กรมการศาสนาพิจารณาจัดสรรงบประมาณตามความเหมาะสม เพื่อช่วยเหลือซ่อมแซม อาคารสถานที่ที่ใช้ในการประกอบศาสนกิจ รวมถึงระบบสาธารณูปโภคที่จำเป็นในการประกอบศาสนกิจ เช่น ที่อาบน้ำละหมาด ห้องสุขา ระบบไฟฟ้า และระบบประปา เป็นต้น

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวทิ้งท้ายว่า มาตรการให้ความช่วยเหลือศาสนสถานและศาสนิกชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แสดงถึงความห่วงใยของภาครัฐ องค์การทางศาสนาทุกศาสนา และหน่วยงานเครือข่ายทางศาสนาที่มีต่อประชาชนชาวไทย ซึ่งที่ผ่านมาองค์การทางศาสนาต่าง ๆ ได้ร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยมุ่งหวังที่จะบรรเทาความเดือดร้อนให้กับศาสนิกชน เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่างหน่วยงานของรัฐและศาสนิกชนทุกศาสนา ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมระหว่างศาสนิกชนต่างศาสนา เพื่อสร้างความเข้าใจอันดีและความสมานฉันท์ ทำให้ประเทศมีความสงบสุข