วันที่ 2 ต.ค.2567 ผศ.ดร.สุริยะใส กตะศิลา คณบดีวิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Suriyasai Katasila ระบุว่า 

" ทัศนศึกษายังสำคัญและจำเป็น แต่...

การทัศนศึกษายังเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาทักษะและการเรียนรู้ของนักเรียน แต่เหตุการณ์โศกนาฏกรรมจากอุบัติเหตุรถบัสนักเรียนไฟไหม้ ได้ทำให้เกิดคำถามในวงกว้างถึงความจำเป็นและความปลอดภัยของกิจกรรมนี้

ในฐานะอาจารย์ที่ต้องร่วมกิจกรรมทัศนศึกษาทุกเทอม ผมเชื่อว่าการทัศนศึกษาเป็นส่วนสำคัญของการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีและโลกเสมือนจริง (Virtual World) กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้น

แม้การเรียนรู้ผ่านโลกออนไลน์จะให้ข้อมูลได้มากมาย แต่การได้สัมผัสของจริงและลงพื้นที่จริงยังคงมีคุณค่าและความสำคัญที่ไม่สามารถทดแทนได้

อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจากการเดินทางเป็นปัญหาที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก ซึ่งเหตุการณ์โศกนาฏกรรมครั้งนี้ควรเป็นโอกาสในการปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยและการบริหารจัดการในการทัศนศึกษา เพื่อให้มั่นใจว่านักเรียนจะได้รับประโยชน์โดยปราศจากความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น

ข้อเสนอเพื่อยกระดับมาตรฐานการจัดทัศนศึกษา มีดังนี้:

1. การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัย

หน่วยงานที่มีบทบาทเช่น ตำรวจทางหลวงและกรมการขนส่งทางบก ควรมีการสนับสนุนการเดินทางของนักเรียน โดยการจัดเส้นทางที่ปลอดภัย ลดการใช้ถนนที่มีความเสี่ยงสูง และมีการตรวจสอบความพร้อมของรถที่ใช้ในการเดินทางเป็นพิเศษ

2. การตรวจสอบคุณภาพของยานพาหนะและผู้ขับขี่

รถบัสที่ใช้ในการเดินทางควรผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เช่น การตรวจสอบสภาพรถ อุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น ถังดับเพลิง และอายุการใช้งานของรถ การจัดให้มีพนักงานขับรถมากกว่า 1 คนสำหรับการเดินทางไกล และผู้ขับขี่ควรได้รับการฝึกฝนด้านความปลอดภัยในการขับขี่เพื่อการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน

3. การจัดทำทะเบียนและติดตามรถที่ให้บริการโรงเรียน

รถที่ใช้ในทัศนศึกษาควรมีการขึ้นทะเบียนกับโรงเรียนและตรวจสอบสภาพรถเป็นประจำ เพื่อให้มั่นใจว่ายานพาหนะมีความปลอดภัย เนื่องจากรถที่ถูกใช้งานในกิจการหลายประเภทอาจมีการดัดแปลงสภาพบ่อยครั้ง ทำให้เกิดความเสี่ยงในการใช้งาน

4. การเลือกสถานที่ทัศนศึกษาโดยคำนึงถึงอายุและระยะทางที่เหมาะสม

การพิจารณาระยะทางในการเดินทางควรสอดคล้องกับอายุของนักเรียนและวัตถุประสงค์ของการทัศนศึกษา เพื่อลดความเสี่ยงจากการเดินทางไกล โดยเน้นการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพจากสถานที่ใกล้เคียงหรือตามความเหมาะสม

5. การเสริมสร้างมาตรการความปลอดภัยเชิงป้องกัน

โรงเรียนควรจัดทำแผนฉุกเฉินสำหรับการเดินทาง เช่น การซ้อมอพยพในกรณีฉุกเฉิน การจัดหาอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย และการกำหนดมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการใช้รถบัส นอกจากนี้ โรงเรียนควรให้ความรู้กับนักเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ควรปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน

6.การใช้ระบบ GPS (real time tracking) บนมือถือและอินเทอร์เน็ต

ในการทัศนศึกษาสามารถเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการจัดการการเดินทางได้โดยการติดตามตำแหน่งแบบเรียลไทม์ แจ้งเตือนสภาพการจราจรและอากาศ สื่อสารผ่านแอปพลิเคชันกลุ่ม บันทึกข้อมูลการเดินทาง ตรวจสอบความเร็วรถ และเช็กอินนักเรียนด้วยระบบอัตโนมัติ ทั้งหมดนี้ช่วยให้สามารถปรับแผนการเดินทางได้ทันที ลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยของนักเรียน

บทเรียนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เราได้ทบทวนความสำคัญของการทัศนศึกษา แต่ยังเป็นโอกาสในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อให้การทัศนศึกษาเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์สูงสุดและลดความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น เพื่อให้โศกนาฏกรรมเช่นนี้ไม่เกิดขึ้นอีก

สุดท้ายนี้ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวผู้สูญเสียทุกๆท่านด้วยครับ"