หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ขายข่าวขายความจริงให้ประชาชนคนไทยได้อ่านมาอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประเทศไทยฉบับนี้ ประจำวันพุธที่ 2 ต.ค.2567 ให้กำลังใจ นายกฯอิ๊งค์ โกอินเตอร์ ...*...
นั่งเก้าอี้ นายกรัฐมนตรีหญิงอายุน้อยที่สุดของประเทศไทย ได้ไม่ทันถึงเดือน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เจอบททดสอบ ภาวะผู้นำในเวทีต่างประเทศครั้งแรก ด้วยการ นำคณะบินไปร่วมประชุมผู้นำ เอซีดี หรือ กรอบความร่วมมือเอเชีย 35 ประเทศ ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ วันนี้ เป็นเวลา 3 วัน ประสา บารอน ขอใช้บรรทัดนี้ ส่งท่านนายกรัฐมนตรีขึ้นเครื่องบิน เดินทางปลอดภัย หวังว่า ผลสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง ของ นิด้าโพล พบว่า ประชาชนร้อยละ 31.35 ให้ นายกฯอิ๊งค์ มากที่สุด ขึ้นอันดับหนึ่ง จะสร้างขวัญกำลังใจ ให้เกิดความมั่นใจยิ่งๆขึ้น และ ประสบผลสำเร็จกลับมา ...*...
อีกเสียงจากนิดา ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ นิดา โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ทักษิณคุณอยู่ไหน เงียบกริบผิดปกติวิสัย นิสัยถาวรเดิมไม่ได้เป็นเช่นนี้ เตรียมหนีไปไหน? ที่นี่ บารอน คนเคยใกล้บ้านจันทร์ส่องหล้า ไปหาข่าวได้ความมาว่า ทักษิณ ยังไม่ได้หนีไปไหน ยังสุขสบายตามอัตภาพ และ ยังมีบทบาททางการเมืองสูงเหมือนเดิม เพียงแต่ ทำตัวเป็นผู้มากบารมีอยู่เบื้องหลัง บ้านจันทร์ส่องหล้ายังคราคร่ำด้วยแขกมาเยือน ชนิดหัวกะไดไม่แห้งครับ...*...
แต่ที่หลับตาไม่สนิทของ ทักษิณ ชินวัตร คือ ผลการสอบสวน กสม. เรื่อง ไม่ได้ป่วยจริง ส่งถึง ป.ป.ช. ใกล้จะแล้วเสร็จ เหลือแค่ รอผลสอบจากแพทย์สภา เท่านั้น ถ้ายังยืนยันไม่ได้ป่วยหนัก ถึงขึ้น ไม่มีเหตุต้องนอนชั้น 14 รพ.ตำรวจ แล้วล่ะก้อ ป.ป.ช.สามารถชี้มูลความผิดได้เลย แค่ขั้นตอนนี้ ที่ต้องรับผิดก่อนใคร คือ ข้าราชการประจำที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หน่วยงานต้นสังกัด ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ ออกคำสั่งให้ หยุดปฏิบัติหน้าที่ และ ให้ออกจากราชการไว้ก่อนทันที ก่อนที่ จะส่งต่อให้อัยการพิจารณา เพื่อ นำส่งฟ้องศาลคดีทุจริตต่อไป ...*...
เหมือนชี้โพรงให้กระรอก แต่ต้องบอกให้รู้ว่า คำสอบสวน ของ แพทย์สภา สำคัญที่สุด เพราะ เป็นพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ สามารถ ชี้ต้นตายชี้ปลายเป็น ยิ่งเสียกว่าประเด็น พยานบอกเล่า ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. ที่ถูกหักล้าง โดย กรมราชทัณฑ์ยืนยัน ว่า ไม่มีรายชื่อเข้าเยี่ยม อีกทั้ง ไม่มีภาพถ่าย จึงเป็นเพียงคำบอกเล่า ไม่ถึงกับเป็นประจักษ์พยานหลักฐาน ...*...
เหลียวดู การแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ ที่ล่าช้ากว่าทุกปี เพราะต้องรอให้ กฎ ก.ตร. มีผลบังคับใช้วันนี้เป็นต้นไป ไล่ตั้งแต่หัวแถว ผบ.ตร.คนใหม่ ใครจะมาแทน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ที่เพิ่งเกษียณราชการไปหมาดๆ บารอน ดูจาก อาวุโส ความรู้ความสามารถ น่าจะไม่พลาดสำหรับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. อาวุโสลำดับที่หนึ่ง ซึ่ง เป็นไปตามนโยบาย ของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร. ที่คาดว่า จะต้องไปนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุม ก.ตร. ด้วยตนเอง ในวันจันทร์ที่ 7 นี้ ...*...
หลังจากนั้น ถึงจะมีการพิจารณาแต่งตั้งระดับ รอง ผบ.ตร. ผช.ผบ.ตร. และระดับต่อๆไป กระแสข่าวปล่อย ที่ลอยอยู่ในโลกโซเชียลว่า จะมีการก้าวกระโดด ให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผช.ผบ.ตร. ก้าวข้ามขั้น ไปเป็น ผบ.ตร.คนใหม่ ที่นี่ บารอน ยืนยันให้ ไม่จริงครับ ...*...
พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข จะได้รับพิจารณา ขึ้นเป็น รอง ผบ.ตร.แน่นอน แต่ ต้องหลังการพิจารณาแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่แล้วเสร็จ เพื่อให้เป็น พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. เทียบเท่าข้าราชการ ซี11 ซึ่งจะช่วยให้ สามารถย้ายข้ามหน่วยได้ ไปรับตำแหน่ง เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ...*...
ฟัง ท่านอาจารย์จรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดถึง อำนาจการยุบพรรคการเมือง ควรให้เป็น อำนาจขององค์กรอิสระ เช่น กกต. หรือ ป.ป.ช. เสียก่อน แล้วถึงค่อยให้ มายื่นอุทธรณ์ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ...*...
ที่นี่ บารอน ก็งงกับคำให้สัมภาษณ์ ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็เป็นหน้าที่ องค์กรอิสระ ทั้ง กกต. และ ป.ป.ช. ก็ต้อง มีความเห็นสมควรยุบพรรคการเมือง แล้วถึง ส่งเรื่องต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ที่งงเพราะ มันต่างกันตรงไหนครับ ถ้า กกต. กับ ป.ป.ช. ไม่เห็นสมควรยุบพรรค ซะอย่าง พรรคการเมืองนั้นๆก็ไม่ถูกยุบ เพราะ ไม่ต้องส่งเรื่องขึ้นไปถึงศาล ...*...
ที่มา:บารอน (2/10/67)