ไล่ปลิดชีพ เด็ดหัว กันเป็นว่าเล่น สำหรับ ปฏิบัติการทางทหารของกองกำลังป้องกันอิสราเอล หรือไอดีเอฟ ที่มีต่อกลุ่มติดอาวุธที่ถูกจัดขึ้นบัญชีดำให้เป็นกลุ่มก่อการร้ายไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น “ฮามาส” ของปาเลสไตน์ และ “ฮิซบอลเลาะห์” ในเลบานอน ที่กำลังเข้มข้น ดุเดือด เลือดพล่าน ณ ชั่วโมงนี้

หากเมื่อกล่าวตามสำนวนไทย ก็ต้องบอกว่า เพราะไป “แหย่รังแตน” เข้าก่อนกันโดยแท้ ของเหล่าบรรดากลุ่มติดอาวุธข้างต้น

จากการที่กลุ่มติดอาวุธฮามาส และกลุ่มติดอาวุธเครือข่ายที่เป็นพันธมิตรอื่นๆ ของฮามาส เช่น กัสซัม เป็นต้น ลอบข้ามพรมแดนจากฉนวนกาซา เข้าไปโจมตีอิสราเอลกันแบบถึงถิ่น ถึงในบ้าน ของอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปลายปีที่แล้ว ก่อนถอยกำลังกลับออกมาพร้อมกับตัวประกันอีกนับร้อยคน

ทว่า การ “เปิดเกมก่อน” ข้างต้น ก็ไม่ได้ทำให้กลุ่มฮามาสได้เปรียบ ตามสำนวนนักเลงที่กล่าว “เปิดก่อนได้เปรียบ” แต่กลับกลายเป็นว่า “เปิดก่อนปูดก่อน” คือ เจ็บตัวอย่างหนักเกิดขึ้นตามมาสำหรับกลุ่มฮามาส

เมื่อปรากฏว่า กองกำลังไอดีเอฟ ซึ่งถ้าจะว่าไป ก็คือ กองทัพดีๆ นี่เอง ของอิสราเอล ตอบโต้สวนกลับด้วยปฏิบัติการทางทหารอย่างมีแบบแผนยุทธวิธีสารพัด ต่อกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา

ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยุทธวิธีโจมตีทางอากาศ โดยใช้ฝูงบินรบ ทิ้งระเบิด หรือทิ้งบอมบ์ ต่อเป้าหมายเป็นหลัก ในพื้นที่ของฉนวนกาซา ตามมาด้วยขีปนาวุธ และจรวดโจมตีต่างๆ ซึ่งยุทธวิธีเหล่านี้ เรียกตามภาษาปากทหาร ก็คือ “ซัดด้วยลูกยาว” ก่อนนั่นเอง

ซัดด้วยลูกยาวทิ้งบอมบ์จนน่วมได้ที่แล้ว ทางอิสราเอล ก็ส่งกำลังทหาร บุกโจมตีภาคพื้นดินตามมา

โดยปฏิบัติการทางทหารดังกล่าวของอิสราเอล ก็ร่ายยาวไปตั้งแต่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ของฉนวนกาซาโดยลำดับ ชนิดที่กล่าวได้ว่า แทบจะไม่มีพื้นที่ใดในฉนวนกาซาปลอดภัยดุจดังก่อนสงครามได้อีกแล้ว โดยมีเป้าหมายทั้งเพื่อช่วยเหลือตัวประกัน และตอบโต้กลุ่มฮามาส รวมไปถึงปลิดชีพเหล่าบรรดาผู้นำของกลุ่มฮามาส อันจะส่งผลให้กลุ่มดังกล่าวต้องระส่ำระสายกันต่อไป

นอกจากนี้ ยังมียุทธวิธีลอบสังหารของบุคคลที่เป็นแกนนำของกลุ่มฮามาส ด้วยรูปแบบแทรกซึมแบบสายลับ หรือหน่วยข่าวกรองกันอีกด้วย ซึ่งยุทธวิธีนี้ การลอบสังหารต่อเหล่าแกนนำของกลุ่มวายร้าย ก็ยังลามเลยไปในดินแดนที่ 3 คือ นอกเหนือพื้นที่สมรภูมิรบที่กำลังตะลุมบอนกันอยู่ด้วย เช่น กรณีการลอบสังหาร “นายอิสมาอิล ฮานิเยห์” ซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส ที่ถูกสังหารขณะออกจากบ้านพักในกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน เพื่อไปร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีอิหร่านคนใหม่ของนายมาซูด เปเซชเคียน เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เป็นอาทิ ทั้งนี้ ปฏิบัติการลอบสังหารข้างต้น นอกจากเขย่ากลุ่มฮามาสแล้ว ก็ยังไม่ผิดอะไรกับการหักหน้าอิหร่าน ในฐานะประเทศผู้ให้การสนับสนุนต่อกลุ่มฮามาสอีกด้วย

นายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำกลุ่มฮามาสฝ่ายการเมือง ที่ถูกสังหารขณะร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของประธานาธิบดีอิหร่านคนใหม่ในกรุงเตหะราน (Photo : AFP)

ส่วนคนที่มารับตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาสคนใหม่นั้น คือ นายคาลิด เมชาล ซึ่งรายนี้ก็ต้องบอกว่า ต้องระมัดระวังตัวกันแจเลยทีเดียว เพราะเคยถูกอิสราเอลพยายามลอบสังหารมาแล้ว แต่รอดชีวิตมาได้

ไล่ๆ กันนั้น กองกำลังไอดีเอฟของอิสราเอล ก็บุกข้ามพรมแดนเข้าไปสังหารคนระดับแกนนำของฮามาสในเขตเวสต์แบงก์จนด่าวดิ้นไปด้วยเหมือนกัน

นั่นคือ นายวิสซา คาสเซม ผบ.กลุ่มฮามาสในเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในเมืองเจนิน ในเหตุการณ์นี้กองกำลังไอดีเอฟ ยังได้ปลิดชีพสมาชิกกลุ่มฮามาสที่อยู่ข้างกายของนายคาสเซมไปด้วยอีกจำนวนหนึ่ง

นอกจากกลุ่มฮามาสแล้ว กองทัพอิสราเอล ก็ได้มีปฏิบัติการทางทหารโจมตีเป้าหมายเป็นกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนด้วย

โดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์นี้ ได้เปิดฉากโจมตีอิสราเอลก่อนเช่นกัน เพื่อตอบโต้ที่อิสราเอลโจมตีฉนวนกาซา และอีกนัยหนึ่งก็คือ หมายช่วยกลุ่มฮามาสในการโจมตีต่ออิสราเอล ซึ่งการโจมตีมีขึ้นในช่วงแรกของสงครามฉนวนกาซา เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วเป็นต้นมาเลยก็ว่าได้

พื้นที่สมรภูมิรบระหว่างกลุ่มฮิซบอลเลาะห์กับอิสราเอลนั้น ก็คือภาคใต้ของเลบานอนกับทางตอนเหนือของอิสราเอล

เมื่อทางฝ่ายกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ใช้วิธียิงขีปนาวุธและจรวดโจมตีเข้ามาในดินแดนตอนเหนือของอิสราเอล ขณะที่ อิสราเอลก็ยิงทั้งปืนใหญ่จากรถถัง และขีปนาวุธ ตลอดจนจรวดโจมตียิงตอบโต้ กระทั่งเมื่อสงครามในพื้นที่ฉนวนกาซาทางฝ่ายฮามาสเริ่มจะหมดพิษสงไปแล้ว พร้อมกับทิ้งร่องรอยบาดแผลของผู้เสียชีวิตกว่า 4.1 หมื่นคน และบาดเจ็บอีกหลายหมื่น รวมถึงอพยพย้ายถิ่นฐานเพื่อหนีสงครามรวมแล้วอีกนับล้านคน ทางฝ่ายอิสราเอล ก็ได้เปิดแนวรบของ “สงครามเฟสใหม่” โดยทันทีเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่เพิ่งผ่านพ้นมา

โดยอิสราเอล ยังคงใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเข้าใส่พื้นที่เป้าหมายไปก่อนล่วงหน้าเช่นเดิม และคาดหมายกันว่า อิสราเอลจะมีปฏิบัติการทางทหารภาคพื้นดินในอีกไม่กี่เพลานี้

นอกจากนี้ อิสราเอลยังโชว์เหนือด้านข่าวกรองและเทคโนโลยี ด้วยปฏิบัติการระเบิดเพจเจอร์และระเบิดวิทยุสื่อสาร ถล่มแทบจะพร้อมๆ กันทั่วเลบานอน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย และบาดเจ็บอีกหลายพันคน ซึ่งทั้งเพจเจอร์และวิทยุสื่อสาร ถือเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ด้านการติดต่อสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์นิยมใช้ แม้ว่าในหลายประเทศถือว่า ล้าสมัยไปแล้วก็ตาม

ทั้งนี้ เมื่อว่าถึงปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในพื้นที่เป้าหมายทั้งในตอนใต้ของเลบานอน รวมถึงที่กรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน ปรากฏว่า สามารถปลิดชีพเหล่าบรรดาแกนนำของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้หลายคน รวมถึงผู้นำสูงสุดของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ นั่นคือ นายฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ ซึ่งเสียชีวิตถึงในสำนักงานใหญ่ของเขา ที่ตั้งอยู่ชานกรุงเบรุต หลังถูกอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเมื่อไม่กี่วันก่อน

นายฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ ผู้นำสูงสุดของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ที่ถูกสังหารโดยปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในเลบานอน (Photo : AFP)

ตามการเปิดเผยของกระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอล ระบุว่า เบ็ดเสร็จรวมแล้วที่แกนนำและผู้นำของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ถูกกองทัพอิสราเอลปลิดชีพก็มีจำนวน 18 รายด้วยกัน ถึงขนาดจัดทำแผนผังกันเลยทีเดียวว่า มีใครถูกเด็ดชีพไปแล้วบ้าง

เมื่อกล่าวถึงการสังหารนายนัสรัลเลาะห์แล้ว ก็ถึงขั้นทำให้ทางอิหร่านซึ่งเป็นสปอนเซอร์ ผู้สนับสนุนรายใหญ่ของฮิซบอลเลาะห์ ต้องย้ายถิ่นที่พำนักของอะยาตุลเลาะห์อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของประเทศคนปัจจุบันไปยังที่ปลอดภัยพร้อมมีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เพราะหวั่นว่าจะซ้ำรอยเหมือนผู้นำฮิซบอลเลาะห์และผู้นำฮามาสที่ถุกสังหารไปก่อนหน้า รวมถึงมีรายงานว่า กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน ซึ่งถูกจัดให้เป็นกลุ่มก่อการร้ายเช่นกัน ก็อาจจะเป็นเป้าถล่มรายต่อไปต่อจากฮิซบอลเลาะห์ที่เพิ่งเสียผู้นำไปหมาดๆ