เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และบริษัทในเครือ ประกอบด้วย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (ซีพีเอฟ) ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ "องค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก" ประจำปี 2567 จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) และเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (TCNN) โดยเครือซีพีและทรูได้รับการยกย่องในระดับยอดเยี่ยม ส่วนซีพีเอฟได้รับการประเมินในระดับดีเด่น นับเป็นก้าวสำคัญสู่เป้าหมายการพัฒนายั่งยืนและการลดโลกร้อนของเครือฯที่ได้รับการยกย่องจากผลงานที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมในด้านการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่เป้าหมาย Carbon Neutral ในปี 2030 และ Net Zero ในปี 2050
โดยในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ "องค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก" นายสมเจตนา ภาสกานนท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวโส ด้านพัฒนาความยั่งยืน เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แทนเข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณจาก นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเครือฯ เป็น 1 ใน 23 องค์กรจากทั่วประเทศที่ได้รับการยกย่องในระดับยอดเยี่ยมจากทั้งหมด 90 องค์กรที่เข้าร่วมการประเมินครั้งนี้ สำหรับผลการประเมินเครือซีพีและบริษัทในเครือ ได้แก่ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้รับการประเมินในระดับยอดเยี่ยม โดยมีผลการประเมินในระดับ Gold ทั้งในด้านการตรวจวัดและการลดก๊าซเรือนกระจก และระดับ Bronze ในด้านการชดเชยก๊าซเรือนกระจก ขณะที่ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) ได้รับการประเมินในระดับดีเด่น ด้วยการดำเนินงานในด้านการตรวจวัดและการลดก๊าซเรือนกระจกในระดับ Silver
ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหาร ด้านความยั่งยืนองค์กร และการพัฒนากลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า การได้รับการรับรองจาก TCNN ครั้งนี้ เป็นการสะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความตั้งใจของเครือซีพีในการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ภายใต้การขับเคลื่อนอย่างแน่วแน่ของซีอีโอ-ศุภชัย เจียรวนนท์ ซึ่งกำหนดเป้าหมาย Carbon Neutral ในปี 2030 และ Net Zero ในปี 2050 ผลการประเมินในครั้งนี้ช่วยตอกย้ำถึงแนวทางการดำเนินงานที่ชัดเจนทั้งในด้านการตรวจวัด การลด และการชดเชยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเราได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม
"ปัจจุบัน เครือซีพีได้เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนมากขึ้นถึง 17% ผ่านการนำไบโอแมสและไบโอก๊าซมาใช้ รวมถึงการผลิตไฟฟ้าจาก Solar PV และการใช้ไฮโดรเจนกับแบตเตอรี่อีวี ส่งผลให้เครือฯ สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 1.74 ล้านตันในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ เรายังสนับสนุนให้พนักงาน คู่ค้า และเกษตรกรในเครือร่วมกันปลูกต้นไม้ลดคาร์บอนและฟื้นฟูระบบนิเวศบนบกไปแล้วกว่า 11.29 ล้านต้น” ประธานคณะผู้บริหาร ด้านความยั่งยืนองค์กร และการพัฒนากลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าว และระบุปิดท้ายว่า เครือซีพีพร้อมที่จะเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์และขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง และร่วมมือกับเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย ผลักดันให้ประเทศและประชาคมโลกบรรลุเป้าหมาย Net Zero โดยเร็วที่สุด นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่เครือฯ จะนำไปสู่ความสำเร็จในการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่ออนาคตที่ดีกว่า
