วันที่ 1 ต.ค.2567 ที่รัฐสภา นายณัฐวุฒิ เรืองปัญญาวุฒิ  สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวภายหลังมีพระบรมโปรดเกล้า ฯแต่งตั้งเป็นผู้นำฝ่ายค้านว่า ขอบคุณที่ทุกคนไว้วางใจให้ทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภา หลังจากนี้จะหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านถึงแนวทางการทำงานในสภาฯในการตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล รวมทั้งให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายบริหาร รัฐบาล และพี่น้องประชาชน ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ตรงนี้อย่างตรงไปตรงมากที่สุดให้คุ้มค่าเงินภาษีของพ่อแม่พี่น้องประชาชนให้สมกับประชาชนที่เลือกเรามาไม่ว่าเราจะทำในฐานะของฝ่ายค้านก็ตาม

ทั้งนี้เราพร้อมเดินหน้าเสนอกฎหมายต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนทุกคนและพร้อมสนับสนุนและร่วมผลักดันกฏหมายต่างๆทุกฉบับ ไม่ว่ากฎหมายเหล่านั้นจะถูกเสนอมาจากฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายใดก็ตาม ตราบใดที่เป็นกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนคนส่วนใหญ่พรรคประชาชนและพรรคร่วมฝ่ายค้านเราจะหารือภายในวิปฝ่ายค้านในการสนับสนุนกฎหมายดังกล่าวร่วมกัน แม้เป็นพรรคฝ่ายค้านแต่ตนเชื่อว่ามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในระบอบประชาธิปไตย หลังจากนี้กระบวนการทำงานของรัฐสภาก็จะครบถ้วนสมบูรณ์ในฐานะที่วันนี้ตนได้รับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านอย่างเป็นทางการก็จะขอทำหน้าที่ต่อไปอย่างเต็มที่

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ในการประชุมวันพุธนี้ ที่ประชุมสภาจะมีการเรื่องของกฎหมายพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า ซึ่งตอนนี้มีทางพรรครวมไทยสร้างชาติที่เสนอร่างมาประกบ ซึ่งทั้งสองร่างตนคิดว่าเป็นประโยชน์ร่วมกันที่จะทำให้การกำกับดูแลของธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศพูดง่ายๆคือไม่เกิดการกินรวบตลาด จึงอยากจะให้ไม่ว่าพรรคการค้าหรือใครรัฐบาลถ้าเป็นประโยชน์ร่วมกันก็อยากจะให้ผลักดันกฏหมายฉบับนี้ร่วมกัน แต่ความสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ก็คือเรื่องที่มาของคณะกรรมการทำอย่างไรที่จะให้เป็นกลางที่สุด สัดส่วนฝ่ายค้าน รัฐบาล สัดส่วนที่มาจากทางคณะกรรมการเสนอเข้ามาแล้วก็ต้องผ่านความเห็นชอบของสภาฯ ซึ่งเป็นรูปแบบโมเดลหนึ่งที่เราสามารถไปหารือกันต่อได้ในวาระที่ 2-3 และยังมีกฎหมายอีกหลายๆฉบับที่กำลังจะเข้าสู่วาระการประชุมในสมัยประชุมนี้ก็ยังมีหลายชุด เช่นในเรื่อง ของพ.ร.บ.ระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ทำอย่างไรให้รัฐบาลพลเรือนอยู่ในกองทัพ ตนเชื่อว่ากฎหมายหลายๆฉบับแบบนี้เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อระบบประชาธิปไตยเป็นประโยชน์ต่อพ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกคนก็พร้อมที่จะเดินหน้าต่อเต็มที่

ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า ในส่วนของการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ มาตรา 152 หรือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 กำลังมีการหารือกัน ซึ่งอยู่ในกระบวนการของพรรคร่วมฝ่ายค้านคิดว่าอย่างเร็วที่สุดก็อาจจะอยู่ในช่วงต้นปีหน้า อย่างไรก็ตามรอความชัดเจนอีกครั้งหลังจากหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านเสร็จก็จะมีการแถลงข่าวอีกครั้ง

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า จะทำหน้าที่ตรวจสอบสมดุลอย่างตรงไปตรงมา นอกจากเรื่องของการทำหน้าที่ตรวจสอบแล้วสิ่งที่สำคัญกว่าไม่แพ้กันก็คือการให้ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลอะไรที่เราคิดว่าเป็นข้อเสนอแนะที่ดีกว่าเป็นนโยบายที่ดีกว่าในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านตนคิดว่าเราพร้อมที่จะเสนอให้รัฐบาลเลือกไปอีกดำเนินการตราบใดที่เป็นประโยชน์ต่อพ่อแม่พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ นอกเหนือจากนี้ก็จะมีในเวทีผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชน ก็อาจจะมีการสัญจรไปต่างจังหวัดต่างๆที่มีปัญหาที่เราได้รับร้องเรียนเข้ามาก็จะเป็นกลไกที่ทำในฐานะของผู้นำฝ่ายค้านกับพรรคได้

เมื่อถามว่าสำหรับการกระชับความสัมพันธ์กับพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะพรรคการเมืองฝ่ายค้าน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า จะใช้กลไกวิปฝ่ายค้านเดินหน้า ทำงานอย่างเต็มที่ แยกแยะงานพรรคกับส่วนบุคคล ที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถูกร้องเรียนถูกร้องเรียนเรื่องจริยธรรม และไม่ส่งผลกระทบต่อการทำหน้าที่

“หากมีประเด็นนี้เกิดในสภาผู้แทนราษฎร หากคณะกรรมการจริยธรรมไม่เดินหน้าตรงไปตรงมาอย่างเต็มที่ ก็จะทำหลายศรัทธาของประชาชน กลายเป็นว่าสภาผู้แทนราษฎรกำกับดูแลกันเองเพื่อสมาชิกด้วยกันเอง แล้วไม่เดินหน้ากำกับดูแลเรื่องมาตรฐานทางจริยธรรม เรื่องนี้กรรมาธิการพัฒนาการเมืองได้หารือและส่งเรื่องไปยังคณะคณะกรรมการจริยธรรมของสภา คิดว่าจะมีการดำเนินการเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา” นายณัฐพงษ์ กล่าว