สุรินทร์ พี่น้องชาวอำเภอปราสาท บรรยากาศพี่น้องคนไทยเชื้อสายเขมรท้องถิ่น อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เดินทางจาก กทม.กลับบ้านมาหาญาติ แห่จับจ่ายใช้สอยซื้อของเตรียมเซ่นไหว้บูช่าบรรพบุรุษ เนื่องในวันแซนโฎนตา หรือ วันสารทเขมร ประจำปี 2567

วันนี้ (30กันยายน 2567) เวลา16.00น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ตลาดเทศบาลตำบลกังแอน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ได้มีประชาชนคนไทยเชื้อสายเขมร ได้ออกมากจับจ่ายใช้สอยซื้อข้าวของกันเป็นจำนวนมาก โดยมีเครื่องเซ่นไหว้ อาทิเช่น กระยาสารท ขนมนางเล็ด ขนมเทียน ข้าวต้มมัด เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อปลา และผักผลไม้นานาชนิด รวมไปถึงเครื่องดื่ม เหล้า น้ำอัดลม ต่างๆ เพื่อนำไปจัดเตรียมเซ่นไหว้ บูชาบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว เนื่องในวันแซนโฎนตา หรือ วันสารทใหญ่เขมร หรือเรียกภาษาเขมรว่า (ไงเบ็ญทม) พื้นถิ่นเขมรอีสานใต้ สุรินทร์-บุรีรัมย์-ศรีสะเกษ ที่จะจัดของเซ่นไหว้ขึ้นในวันรุ่งขึ้นคือวันอังคารที่ 1 ตุลาคม 2567 นี้ 


โดยวันนี้ 30 ก.ย.2567 ตามความเชื่อก่อนถึงวันไหว้ ยึดถือกันของสาทรเขมรถือเป็นวันจ่าย ทำให้บรรยากาศการซื้อของของ และเครื่องเซ่นไหว้บูชา ที่ตลาดเทศบาลกังแอน อำเภอปราสาท บรรยากาศคึกคักเป็นพิเศษ พ่อค้าแม่ค้าต่างขายดีกันเป็นแถวๆ และบรรยากาศก็ไม่ต่างจากการจับจ่ายซื้อข้าวของและเครื่องเซ่นไหว้ ในวันไหว้บรรพบุรุษของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน หรือวันสารทจีนและสารทไทย


        
ทั้งนี้ วันแซนโฏนตา ของคนไทยเชื้อสายเขมรของทุกปีจะจัดขึ้นตรงกับ วันแรม 14 ค่ำ เดือน 10 ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันอังคารที่ 1 ตุลาคม 2567 โดยในช่วงเช้าตรู่ในแต่ละบ้านแต่ละครัวเรือน ต่างจะมีพี่น้องเกี่ยวข้องกันเครือญาติกัน จะนำข้าวของและเครื่องเซ่นไหว้ ใส่กระเชอหรือภายชนะ นำมาส่งที่บ้านญาติของแต่ละครอบครัว เพื่อตั้งจัดเตรียมไว้ทำพิธีเรียกบูชาบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วให้มารวมกัน เพื่อมารับเครื่องเซ่นไหว้บูชาจากลูกหลาน และญาติพี่น้อง ซึ่งจะมีการทำเรียกบรรพบุรุษตลอดทั้งวันทั้งคืน ในวันแรม 14 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี จากนั้น ในช่วงเช้าของวันแรม 15 ค่ำเดือน 10 หรือเรียกว่า (ไงเบ็ญตู๊จ) ซึ่งปีนี้ตรงกับวันพุทธที่ 2 ตุลาคม 2567 คนไทยเชื้อสายเขมร หรือชาวพุทธ ต่างก็จะพากันไปทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ฟังธรรมที่วัด เพื่ออุทิศบุญกุศล พร้อมทำพิธีส่งผู้ที่ล่วงลับไปแล้วกลับคืนยมโยกตามความเชื่อ โดยในห้วงวันดังกล่าวทั้ง 2 วันนี้ ก็จะร่วมกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่บรรพบุรุษ เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษผู้มีพระคุณ