บสย.ชวนลูกหนี้ SMEs ที่ถูกจ่ายเคลมหนังสือค้ำประกัน เข้าร่วมมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ “บสย. พร้อมช่วย” ช่วยลูกหนี้ ลดต้น ลดดอก ลดภาระทางการเงิน ช่วยประคับประคองธุรกิจผ่านพ้นวิกฤต และเดินหน้าต่อไป พร้อมให้คำปรึกษาแก้หนี้ ปลดล็อกธุรกิจ ผ่านศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs ฟรี! สามารถลงทะบียนร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่าตลอดระยะเวลา 33 ปีที่ผ่านมาได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs อย่างเต็มที่ทุกด้าน ทั้งการค้ำประกันสินเชื่อ ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs ที่ขาดหลักประกันสามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ง่ายขึ้นผ่านกลไกการค้ำประกันสินเชื่อ Credit Guarantee โดยในรายที่ถือหนังสือค้ำประกันที่กลายเป็น NPL และปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารไม่ไหวจนถูกจ่ายเคลมเข้ามาแล้วนั้น บสย.มีมาตรการ “บสย. พร้อมช่วย” (มาตรการ 4 สี ม่วง เหลือง เขียว ฟ้า) เป็นมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ “ผ่อนน้อย เบาแรง” “ตัดเงินต้น ก่อนตัดดอก” หรือจ่ายเงินต้นบางส่วน และคิดอัตราดอกเบี้ย 0% ผ่อนยาว 7 ปี “หนี้ลด หมดเร็ว“ นับเป็นมาตรการที่มีความยืดหยุ่นตามความสามารถของลูกหนี้ และช่วยรักษาสภาพคล่อง SMEs และ Micro SMEs ในระหว่างที่เข้ากระบวนการปรับโครงสร้างหนี้กับ บสย.
ทั้งนี้ บสย.เริ่มมาตรการตั้งแต่ปี 2565 ประสบความสำเร็จในการดำเนินมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ค้ำประกันสินเชื่อที่ถูกเคลม เฉพาะปีนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม – 25 กันยายน 2567 มีลูกหนี้ บสย.ที่ได้รับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้ว 2,712 ราย โดยมียอดสะสมลูกหนี้ที่เข้าร่วมมาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และได้รับการประนอมหนี้รวม 15,842 ราย คิดเป็นมูลหนี้รวมกว่า 7,219 ล้านบาท (ตั้งแต่เริ่มมาตรการในเดือนเมษายน 2565 จนถึงสิงหาคม 2567) โดยเฉพาะในปี 2565 เส้นกราฟจำนวนลูกหนี้ที่เข้ามาตรการปรับโครงสร้างหนี้พุ่งขึ้น คิดเป็นอัตราการเติบโตกว่า 67% แสดงว่าลูกหนี้ NPL ที่ถูกจ่ายเคลมมาที่ บสย. เห็นประโยชน์จากมาตรการการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งเป็นทางออกและกำลังใจ เป็นการต่อลมหายใจให้กับ SMEs ที่ถูกจ่ายเคลมอย่างชัดเจน
นายสิทธิกร กล่าวอีกว่า ผลสำเร็จจากมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ มาจากการพัฒนาโมเดลที่ยืดหยุ่น เปิดกว้างและให้โอกาสลูกหนี้ที่ถูกจ่ายเคลม ปรับตัวต่อลมหายใจ โดยเป็นมาตการที่รองรับตามความสามารถในการชำระหนี้ 3 ระดับ (ม่วง เหลือง เขียว) ช่วยลูกหนี้ ตัวเบา ลดต้นทุนทางการเงิน มีจุดเด่นคือ “ตัดต้นก่อนตัดดอก” และ “ดอกเบี้ย 0%” ปัจจุบันพบว่า ลูกหนี้กลุ่มที่มีศักยภาพในการชำระคืนเงินต้นบางส่วนแต่ต้องการปลอดดอกเบี้ย (สีเขียว) สูงถึง 69.4% ตามด้วยลูกหนี้กลุ่มที่จ่ายไหวเพียงบางส่วน (สีเหลือง) 19.2% และลูกหนี้กลุ่มเปราะบาง (สีม่วง) 7.2% ความสำเร็จที่ชัดเจนจากมาตรการนี้คือ สามารถช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มสีเขียวให้สามารถปลดหนี้ และเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้ ผ่านการร่วมมาตรการ “ปลดหนี้” (สีฟ้า) จำนวน 114 ราย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (มาตรการปลดหนี้ เปิดใช้เมื่อเดือนมกราคม 2567 เป็นมาตรการช่วยลูกหนี้กลุ่มสีเขียวที่ผ่อนชำระดี 3 งวดติดต่อกัน และต้องการปลดหนี้ โดย บสย.ลดเงินต้นให้ 15%)
“ขอเชิญชวนผู้ประกอบการ SMEs โดยเฉพาะลูกหนี้เก่าค้างเดิมที่ถูกจ่ายเคลมในอดีตปรับมุมมองเข้ามาปรึกษากับ บสย. เพื่อเข้าร่วมมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ บสย. พร้อมช่วย เพียงเข้ามาหาเรา วันนี้ บสย. มีแนวทางช่วยเหลือ ทั้งการปลดหนี้ผ่านมาตรการสีฟ้า และกลุ่มดอกเบี้ยค้าง ด้วยการปรับลด ยกดอกเบี้ยฟรีให้ลูกหนี้ (มาตรการสีเขียว) ให้สามารถกลับมาพลิกฟื้นธุรกิจได้อีกครั้ง” นายสิทธิกร กล่าว
สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ลูกหนี้ บสย. สามารถขอรับคำปรึกษาเรื่องแก้หนี้ การดำเนินธุรกิจ ฯลฯ ผ่าน “ศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน SMEs” ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยสามารถสอบถามรายละเอียดและการเข้าร่วมโครงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ผ่านช่องทาง บสย. Call Center 02-890-9999 หรือลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ “บสย. พร้อมช่วย” ได้ที่ช่องทาง LINE OA TCG First: @tcgfirst
#บสย #บสยพร้อมช่วย #ข่าววันนี้ #สยามรัฐออนไลน์ #สยามรัฐ #ปลดหนี้