เมื่อวันที่ 26 ก.ย.67 ที่ผ่าน "ตูน บอดี้สแลม" บินไปเล่นคอนเสิร์ตที่สต็อคโฮม แต่เกิดเหตุการณ์ที่ทำเอาหัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม โดย เจ้าตัว โพสต์ถึงเหตุการณ์ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว @artiwara ระบุว่า...
ไม่ได้เขียนไดอารี่แบบจริงจังมานาน...แต่วันนี้คิดว่าต้องเขียนอะไรบางอย่างเพื่อเป็นบันทึกเหตุการณ์สำคัญอีกครั้งของชีวิต
ออกเดินทางจากบ้านที่ภูเก็ตมาเล่นคอนเสิร์ตที่สต็อคโฮม เมื่อหัวค่ำวันที่ 26 กันยายน กว่าจะมาถึงที่สต็อคโฮมก็เป็นเช้าวันที่27กันยายน
ถึงโรงแรมที่พักก็นอนต่ออีกหน่อยเพราะอ่อนล้าจากการเดินทางไกล
มาตื่นอีกทีก็ช่วงบ่ายๆเย็นๆ
ออกไปเดินสำรวจเมืองสต็อคโฮมและหาอะไรกินสักหน่อย
ระหว่างที่นั่งรอมื้อเย็น...ก็มีสายไลน์คอลจากน้องสันต์ น้องที่ทำงานมูลนิธิก้าวฯที่ลงมาอยู่ที่ภูเก็ตด้วยกัน ที่เรามักจะรบกวนน้องเค้าให้ช่วยดูแลครอบครัวเราเสมอในยามที่ผมต้องเดินทาง
น้องเค้าโทรมาบอกว่า ทะเล มีอาการชักและหมดสติไป...ตอนนี้กำลังไปโรงพยาบาล!!
ตอนนั้นจำได้เลยว่าหัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม...อยากจะร้องไห้ออกมาให้ได้...เป็นห่วงลูกที่สุด นาทีนั้นอยากจะจับเครื่องบินไฟล์ทด่วนที่สุดเพื่อกลับบ้านให้ได้
หลังจากสายของน้องสันต์ไม่นาน ก็มีสายของพี่ก้อย เพื่อนของเราที่ภูเก็ตที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด...ก็โทรมาเล่าว่าเกิดอะไรขึ้นและตอนนี้อาการทะเลเป็นอย่างไรบ้าง
พอได้ยินจากพี่ก้อยว่าตอนนี้ทะเลไปถึงโรงพยาบาลถลางเรียบร้อยและเริ่มรู้สึกตัวแล้ว...ก็ทำให้เริ่มใจชื้นขึ้นมาบ้าง
แต่ในใจก็ยังเป็นห่วงสุดๆ
สายสุดท้ายของวันนั้นก็คือได้โทรวิดีโอไลน์คอลกับน้องก้อย และทะเล...ซึ่งภาพที่เห็นตอนนั้นก็คือทะเลได้ย้ายมาโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตแล้ว และสามารถพูดคุยได้และมีสีหน้าที่ดูไม่น่าที่จะต้องเป็นกังวล
แต่ใจเราเองก็ยังไม่สบาย...และยังอยากกลับบ้านไปให้เร็วที่สุด
แต่ก็ยังกลับไม่ได้...ในเมื่อพรุ่งนี้ยังต้องขึ้นเวทีเพื่อร้องเพลงที่สต็อคโฮม
ระหว่างนี้ก็ได้แต่หวังใจว่าอาการของทะเลจะไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงเกิดขึ้นมาอีก
ตื่นเช้ามาอีกวันก็ไม่รีรอที่จะโทรถามไถ่อาการล่าสุดของทะเล...ซึ่งก็ยังมีไข้สูงและต้องให้ยาฆ่าเชื้อผ่านทางสายน้ำเกลือ...แต่ได้เห็นทะเลเริ่มมีรอยยิ้มได้ก็เบาใจ
และคิดว่าพร้อมที่จะขึ้นโชว์ในคืนนี้ที่มีคนตั้งใจมาเชียร์พวกเรากว่า2พันคน
สุดท้ายโชว์ครั้งแรกของเรา @bodyslamband ที่สต็อคโฮมก็ผ่านพ้นไปด้วยความสุขและรอยยิ้มของทุกคน
ตลอดเกือบ3ชั่วโมงบนเวที...ไม่ง่ายเลยที่จะทิ้งความกังวลทุกอย่างลงได้หมด...แต่ในใจเราก็หวังเพียงอย่างเดียวว่าจะทำให้ทุกๆคนที่ตั้งใจมาเชียร์เราในคืนนี้ได้มีความสุขที่สุดให้ได้
นั่งพิมพ์ข้อความนี้บนเครื่องบินไฟล์ทแรกสุดที่จะเป็นไปได้เพื่อเดินทางกลับไปหาครอบครัว
ได้นั่งคิดและเข้าใจตัวเองมากขึ้นจากเหตุการณ์นี้เลยว่า นาทีนี้สิ่งที่สำคัญกับชีวิตมากที่สุดก็คือ ลูกๆภรรยาและครอบครัว
ไม่ใช่ความสุขส่วนตัวของตัวเองอีกต่อไปที่จะทำให้เรายิ้มได้
หากแต่คือรอยยิ้มของทุกคนในบ้านต่างหาก ที่จะตกกระทบมาให้เราได้มีความสุขจากการที่พวกเขาได้มีความสุข
สุดท้ายนี้ต้องขอบคุณใครบางคนที่ยังเมตตาให้เราได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาด้วยกัน
ขอบคุณจริงๆครับ👨👩👧👦🌈🙏🧡
ขอบคุณข้อมูล/ภาพ : IG@artiwara