วันที่ 30 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า มีชาวบ้านจำนวนนับ10คนได่วิ่งจับนางสาวเมย์อายุ17ปีบ้านเลขที่21บ้านแก.ม.9ต.หนองขวาวอ.ศีขรภูมิจ.สุรินทร์หลังจากที่มีอาการป่วยทางจิตมานานแต่นำส่งไปรักษาที่รพ.ก็หายไปสักระยะหนึ่งพอส่งมาถึงที่บ้านเพียงไม่กี่วันก็มีอาการกำเริบขึ้นมาอีกเป็นอย่างนี้บ่อยครั้งจนกระทั่งนางโฉมเฉลา  อายุ44ปีซึ่งเป็นแม่ของน.ส.เมย์ไปปรึกษาญาติพี่น้องในหมู่บ้านและได้ไปดูหมอดูก็ให้นางโฉมเฉลาไปทำพิธีปัเป่าผีสางออกไปจากร่างกายและหายเจ็บป่วยตามความเชื่อคนสมัยโบราณ

นางโฉมเฉลา ซึ่งเป็นแม่บอกว่าตนเองมีลูกด้วยกันทั้งหมด6คนมีลูกชาย3คนลูกสาว3คนส่วนคนที่ป่วยนั้นเป็นลูกสาวชื่อ(เมย์)เป็นคนที่2อายุ17ปีโดยเมย์จะเป็นออดๆแอดๆอยู่อย่างนี้มานานบางครั้งอยู่ดีดีก็ร้องขึ้นมาบางวันอยากร้องให้ก็ร้องขึ้นมาอย่างนั้นซึ่งตนเองนำไปรักษาที่รพ.พอนำไปแล้วกลับมาก็มีอาการเหมือนเดิม

จนกระทั่งได้เข้าไปปรึกษาญาติพี่น้องที่อยู่ภายในหมู่บ้านก็แนะนำให้ไปหาหมอดูลองเสี่ยงทายดูว่ามาจากสาเหตุอะไรจนกระทั่งหมอดูได้บอกว่าอยากหายก็ให้บนศาลเอาไว้ประมาณสัก1ปี6เดือนหรือถ้าหายแล้วก็ให้ไปแก้บนให้จะทำให้อาการดังกล่าวหายไปซึ่งตนเองก็เชื่อกับคำผู้หลักผู้ใหญ่แนะนำมาจึงได้นำมาแสดงเพื่อให้ลูกหายจาการเจ็บป่วยแต่ในระหว่างการทำพิธีทำให้นส.เมย์ตกใจและวิ่งหนีไปกลางทุ่งนาชาวบ้านวิ่งไล่จับกันกลางทุ่ง

นางโฉมเฉลายังบอกอีกว่าตนและสามีได้เงินดิจิทัลมา2หมื่นได้คนละหมื่นว่าจะไปหาหมอปลาให้มาช่วยรักษาและดูอาการแต่ก็กลัวไปไม่ถูกจนกระทั่งญาติพี่น้องได้แนะนำให้รักษาทางไสยศาตร์บ้านเราไปก่อนเผื่อจะได้หายเพราะลูกสาวของตนเองดูไปดูมาก็เหมือนกับมีผีมาเข้าสิงตนเองก็เลยได้นำเงินจำนวน16,000บาทนำไปจ้างแกลมอมานำเล่นเพื่อให้ลูกหายถ้าหากว่าไม่หายตนเองก็อาจจะไปพึ่งหมอปลาแต่เวลาจะไปเงินค่ารถค่าอยู่ค่ากินก็ไม่มี  

ในระหว่างที่นำตัว น.ส.เมย์  มาเข้าทำพิธีทางคณะรำแกลมอลจึงได้ทำพิธีขึ้นทำให้นส.เมย์หยุดบ้าคลั่งและเงียบหลับไปในระหว่างการทำพิธีทำเอาพี่น้องภายในหมู่บ้านถึงกับได้นั่งเฝ้าดูอาการจนเสร็จพิธี