ชายขาพิการวัย 74 ปีเบิกเงินผู้เปราะบาง 5,000 บาทซื้อเหล้าขาวมาตั้งวงดื่มฉลองกับเมียสาววัย 44 ปีและเพื่อนรุ่นน้องวัย 62ปีพอเมาได้ที่คิดจะลวนลามเมียสาวรุ่นพี่ บอกเคยเป็นแฟนเก่า ห้ามแล้วไม่ฟัง รุ่นพี่โมโหคว้าค้อนตีตะปูตีหัวไป 3 ทียังไม่หนำใจใช้มีดพร้าฟันหัวซ้ำล้มลงจนเลือดสาดกระเด็นลงหม้อแกงดับสยอง ฉลองรับเงินแจกรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ย.67 เวลา 17.00 น. พ.ต.ต.วิสุทธิ์ งอธิราช สว.(สอบสวน)สภ.เซกา อ.เซกา จ.บึงกาฬได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตอยู่ในกระท่อมเถียงนาห่างจากหมู่บ้านประมาณ 400 เมตร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมตำรวจพิสูจน์หลักฐานบึงกาฬ แพทย์เวร รพ.เซกาและหน่วยกู้ภัยสว่างศรีวิไลจุดเซกา ที่เกิดเหตุเป็นเถียงนาตั้งอยู่บนขอบสระน้ำพบศพผู้ตายใส่เสื้อยืดคอกลมสีขาวกางเกงขายาวสีน้ำตาล มีบาดแผลถูกตีด้วยค้อนตีตะปูเข้าที่ขมับด้านขวาที่ดั้งจมูกและที่ริมฝีปากด้านบนและที่ท้ายทอยมีรอยถูกฟันด้วยของมีคม 3 แห่งเลือดไหลอาบทั่วร่างกายจนแห้งกรังคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 ชั่วโมง
ทราบชื่อต่อมาว่านายลำพอง หรือต๊อก อายุ 62 ปีอยู่บ้าน หมู่ที่ 18 บ้านพัฒนาภิบาลตำบลเซกาอำเภอเซกา เสียชีวิตอยู่ด้านล่างพื้นเถียงนาที่ยกสูงประมาณ 80 เซนติเมตร มีเลือดไหลนองพื้น ที่เตาทำอาหารมีหม้อแกงตั้งอยู่ส่วนที่พื้นตรงที่ผู้ตายล้มลงหัวฟาดพื้นเป็นหม้ออลูมิเนียมที่ใช้สำหรับแช่ข้าวเหนียว ซึ่งมีข้าวเหนียวยังแช่อยู่ในหม้อ ที่บุบบิดเบี้ยวเสียรูปเพราะศีรษะผู้ตายล้มฟาดใส่หม้อ นอกจากนั้นเลือดยังสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณเป็นที่สยดสยองต่อผู้พบเห็น ส่วนผู้ที่ก่อเหตุถูกเจ้าที่ตำรวจชุดสายตรวจควบคุมตัวไว้ขณะที่เดินออกมาจากบ้านเกิดเหตุพร้อมกับภรรยา ทราบชื่อต่อมาว่า นายอุดร อายุ 74 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุและเป็นชายขาพิการขาลีบด้านขวาอ่อนแรงมีเสื้อผ้าและกางเกงเปื้อนเลือด ส่วนภรรยาที่เดินไปด้วยกันก็คือ นางสาวนงเยา อายุ 44 ปี จึงถูกควบคุมตัวมายังที่เกิดเหตุ ซึ่งผู้ต้องหาได้อ้างว่ากำลังจะเดินไปมอบตัวกับตำรวจโดยได้ถืออาวุธที่ใช้ทำร้ายผู้ตายก็คือค้อนตีตะปูกับมีดพร้า 1 เล่มติดตัวมาด้วย
โดยผู้ก่อเหตุคือ นายอุดร รับสารภาพว่าเมื่อวานนี้ได้ไปถอนเงินผู้เปราะบางออกมาจากธนาคาร จำนวนเงิน 5,000 บาท เพื่อมาซื้อเหล้าขาวดื่มฉลองพร้อมด้วยภรรยาสาววัยลูก 44 ปี โดยมีนายลำพองผู้ตายมานั่งร่วมวงอยู่ด้วยรวม 3 คน ผู้ต้องหาเล่าต่อไปว่าขณะที่นั่งดื่มเหล้ากันอย่างสนุกสนานมีภรรยาสาวก็ได้ทำกับแกล้มมาให้กิน ส่วนข้าวเหนียวก็ยังไม่นึ่งยังแช่อยู่ที่หม้อ ขณะนั้นผู้ตายได้พยายามพูดแทะเล็มและลวนลามภรรยาของตนด้วย ซึ่งตนก็ได้พยายามพูดห้ามปรามว่าอย่าทำอย่างนั้น แต่ผู้ตายก็ยังฝ่าฝืนไม่เชื่อฟัง อ้างว่าภรรยาของตนเคยเป็นแฟนเก่าผู้ตายมาก่อน ก่อนที่จะมาอยู่กับตนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ทำให้ตนเกิดความโมโหจึงคว้าเอาค้อนตีตะปูที่วางอยู่ข้างๆ มาตีหัวผู้ตายไป 2-3 ทีจนล้มหงายท้องลงไป ตนยังไม่หายโมโห จึงได้คว้าเอามีดพร้าฟันซ้ำเข้าทีศีรษะผู้ตายอีก 2-3 ทีจนแน่นิ่งไป ส่วนตนและภรรยาสาวก็นิ่งกินเหล้าต่อไป
ขณะที่นั่งเฝ้าศพผู้ตายอยู่นั้นเป็นเวลานานพอสมควรจึงได้ชวนเมียสาวเดินออกไปข้างนอกเพื่อจะไปโรงพักแจ้งความกับตำรวจว่าตนเองได้ฆ่าคนตายแล้ว พอเดินถึงหน้าโรงพยาบาลเซกา เกิดหิวน้ำจึงได้แวะขอกินน้ำกับบ้านคนรู้จัก ชื่อว่านายแพง เขาก็ยังถามตนเองว่าทำไมเสื้อผ้าที่ใส่จึงเปื้อนเลือด ก็ไม่ตอบอะไร บังเอิญมีตำรวจสายตรวจขี่ผ่านมาเค้นสอบถาม จึงบอกไปว่าฆ่าคนตายมา จึงถูกควบคุมตัวดังกล่าว
ด้านนางสาวนงค์เยา สาวต้นเหตุศึกชิงนางในครั้งนี้ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุที่สามีลงมือฆ่ากรรมเพื่อนรุ่นน้องที่ร่วมวงดื่นเหล้าด้วยกันครั้งนี้ เพราะผู้ตายเมาแล้วชอบมาลวนลามตน ห้ามก็ไม่ฟังสามีจึงโมโหใช้ค้อนตีตะปูทุบหัวและใช้มีดฟันซ้ำจนตายดังกล่าว ถึงถูกควบคุมตัวเข้าห้องขังเพื่อรอการสอบสวนดำเนินคดีต่อไป