วันที่ 28 ก.ย.67 จ.สมุทรสงคราม  นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) ให้สัมภาษณ์กรณีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารจังหวัด (อบจ.) ว่าวันนี้มีที่เลือกไปแล้ว 3 จังหวัด ซึ่งเกิดจากการลาออกจากตำแหน่งก่อนหมดวาระ  และคาดว่าน่าจะมีการทยอยลาออกก่อนหมดวาระในวันที่ 19 ธ.ค.2567  เพิ่มอีก   ซึ่งเท่ากับว่าบางจังหวัดจะทำให้มีการเลือก 2 ครั้ง    คือมีการเลือกนายก อบจ.ก่อน   แล้วเลือกสมาชิก  อบจ.อีกครั้งหนึ่ง   หากนายก  อบจ.อยู่ครบวาระก็จะได้จัดเลือกพร้อมกันได้

"วันนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะมีนายก  อบจ.ลาออกจากตำแหน่งก่อนหมดวาระอีกกี่จังหวัด เพราะการลาออกนั้นอยู่เหนือการควบคุม แต่เราก็พอมีข่าวอยู่บ้าง   ว่าน่าจะมีการลาออกอีกหลายจังหวัด ซึ่งก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการจัดการเลือกนายก  อบจ.หรือเลือกสมาชิก  อบจ.แต่อย่างใด ไม่ว่าจะเลือกพร้อมกัน  หรือเลือกแยก เราก็พร้อมอยู่แล้ว   แต่อาจจะกระทบกับงบประมาณ   โดยรวมเลือกใหญ่ๆ ก็คือหลังหมดวาระ 19 ธ.ค.67   แต่เลือกวันไหน มีตารางอยู่แล้วว่าใน 45 วัน เราจะทำอะไรบ้าง" 

เมื่อถามถึงแผนการป้องกันปัญหาการจัดกิจกรรมของผู้สมัคร เป็นเหตุให้ต้องจัดเลือก ใหม่เหมือนที่เกิดขึ้นที่จังหวัดปทุมธานี นายแสวง กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นการเลือกทั่วไป หรือเลือกแทนตำแหน่งที่ว่าง กกต.มีมาตรการป้องกันเหตุที่จะทำให้เกิดการเลือกที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรม ซึ่งเป็นความร่วมมือของผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย แต่ผู้สมัครเองอาจหวังผลชนะ เลยมีการทำเลยไปจากกฎหมาย ซึ่งเรื่องแบบนี้นับวันจะน้อยลง ไม่ว่าจะเป็นระดับท้องถิ่น หรือระดับชาติ แต่ก็ไม่ได้วางใจในเรื่องนี้ และมีมาตรการดูแลอยู่ โดยดูเป็นรายจังหวัด บางจังหวัดอาจจะไม่มีการแข่งขัน เพราะมีผู้สมัครคนเดียว

เมื่อถามว่า ขณะนี้เข้าเกณฑ์ระยะเวลาที่อบจ.จะไม่สามารถใช้งบประมาณในกิจกรรมที่เอื้อประโยชน์ต่อการหาเสียงหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า เงื่อนเวลา 180 วันก่อนครบวาระ หากทำตามโครงการงบประมาณประจำปีก็ยังสามารถทำได้ เพราะก็ถือว่ายังเป็นนายกอบจ.อยู่ เขาต้องดูแลประชาชน แต่ถ้าเป็นการทำเกินจากนั้นก็ต้องดูว่า คืออะไร จูงใจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไปออกเสียงหรือไม่ ผิดปกติหรือไม่ ก็ต้องมาดูเป็นรายประเด็นไป คิดว่าอาจจะต้องระวัง บางครั้งเขาอาจจะทำถูก แต่ด้วยความไม่แน่ใจ บางครั้งเลยลาออก เพื่อให้ไม่อยู่ใน 180 วันก็มี แต่การลาออกไม่ได้มีแค่เหตุผลเดียว เป็นเหตุผลทางการเมืองในพื้นที่ก็มี อันนั้นทำให้เราไม่สามารถคาดคะเนได้ว่าจะมีนายกอบจ.ที่ไหนลออกอีก

เมื่อถามว่า อาจมีการใช้เรื่องการช่วยเหลือเหตุภัยพิบัติ เพื่อเอื้อประโยชน์หรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า จริงๆ เรื่องน้ำท่วมใครก็ช่วยได้ แต่ต้องดูว่าเมื่ออยู่ในช่วง ที่มีการประกาศให้มีการเลือกตั้ง ต้องอยู่ในข้อกฎหมายเรื่องการหาเสียง แต่สำหรับคนที่มีตำแหน่งหน้าที่ในการช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้วก็ต้องมาดูว่าการช่วยเหลือนั้น อยู่ในแผนงานงบประมาณหรือไม่

"เรื่องการช่วยเหลือน้ำท่วมคงไม่ได้อยู่ในแผนงานการใช้งบประมาณของอบจ. แต่เป็นเหตุที่เกิดขึ้นแบบกระทันหัน ก็จะดูว่าการช่วยเหลือนั้นสมควรแก่เหตุหรือไม่ เพราะเขาเองก็มีหน้าที่ในการช่วยเหลือ ดังนั้นข้อเท็จจริงแบบนี้เราสามารถแยกดูได้ ถ้าถามว่าเสี่ยงจะมีการ ร้องหรือไม่ผมคิดว่ามีการร้องเรียนแน่นอน แต่เราให้ความเป็นธรรมได้" นายแสวง กล่าว  

นายแสวง   ยังกล่าวถึงการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า กกต. มีหน้าที่ทำประชามติ ในเรื่องใด ตามความเห็นชอบของ ครม.  โดย กกต. จะมีปฏิทินการทำงาน หากมีการเสนอการทำประชามติ พร้อมการเลือก อบจ. สามารถทำได้ตามทฤษฎีและการบริหาร แต่ในทางกฎหมายอาจมีปัญหาที่ผู้มีสิทธิ์เลือกมีลักษณะคล้ายกันมาก และในบางจังหวัดมีการเลือกนายก อบจ. ไปแล้ว คาดว่างบประมาณอาจจะใช้เป็น 2 เท่า และขณะนี้ความชัดเจนเกี่ยวกับกฎหมายประชามติยังไม่แน่ชัด จึงเห็นว่าการทำอย่างใดอย่างหนึ่งจะเป็นแนวทางที่ดีกว่า เช่นกันเลือก อบจ. อย่างเดียว คนละวันกับการทำประชามติ

ทั้งนี้มีรายงานว่ากรณีการเลือกตั้งนายกและสมาชิก  อบจ.กรณีครบวาระในวันที่ 19 ธ.ค 67    ซึ่งจะต้องมีการจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วันนั้น    คาดว่าวันเลือกตั้งอาจกำหนดเป็นวันอาทิตย์ที่ 26 ม.ค 68 หรือวันอาทิตย์ที่ 2 ก.พ.68