ถือเป็นการทิ้งทวน ก่อนเกษียณ ที่ไม่ใช่สะเทือน คอแดง ทบ. แต่สะท้านไปถึง  คอแดง นอกทบ. ด้วย

เมื่อ “บิ๊กต่อ” พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ.  ดับเครื่องชน ปกป้องกองทัพบก จากพลังอำนาจภายนอก ที่ไม่ใช่การเมืองหลังจากที่ ยอมให้มีบทบาทอิทธิพล เหนือการ แต่งตั้งโยกย้ายนายทหารคอแดง ของ ทบ.มาหลายสมัย

แต่หลังจากที่ พล.อ.เจริญชัย เคลียร์ปัญหาของคนในครอบครัว ที่ร่ำลือกันว่า ถูกใช้เป็นเครื่องมือ ในการต่อรอง เรื่อง การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร ครั้งนี้ แล้ว พล.อ. เจริญชัย ก็มีอิสระในการจัดโผ เต็มที่  หลังจาก มี “ผู้ใหญ่” ที่เคารพนับถือ  ตรวจสอบ ในเรื่องที่ยากเข้าถึง ให้ แล้วว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เชื่อมโยงใดๆ

งานนี้ พล.อ.เจริญชัย เสนอชื่อ “บิ๊กปู” พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ (ตท.26) เสนาธิการทหารบก  สายวงศ์ เทวัญคอแดง เป็นผบ.ทบ. ตามที่เห็นความเหมาะสม นั่งยาว 3 ปี   หรือเป็นที่รู้กันว่าเป็นสายตรง ของ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ และ “บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ อดีตผบ.ทบ. ที่สนับสนุนกันมา  แม้จะเป็นที่รู้กันว่าความสัมพันธ์กับอดีตผบ.ทบ. คนหลังไม่สู้ดีนักก็ตาม

แต่ที่ พล.อ.เจริญชัย ตัดสินใจครั้งสำคัญคือปลดแอกทุกแรงกดดัน ในการเสนอชื่อ “บิ๊กใหญ่” พล.ท. อมฤต บุญสุยา  (ตท.27) แม่ทัพน้อย 1  น้องรักสายทหารเสือราชินีคอแดง ขึ้น  เป็นแม่ทัพภาค 1 คุม ขุมกำลังปฏิวัติ และยังเป็นน้องรักสายทหารเสือราชินีของ  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  องคมนตรี อีกด้วย

ทำให้ผิดแผนของเตรียมทหารรุ่น 28 เพราะ “บิ๊กไก่”  พล.ต.วรยส เหลืองสุวรรณ  รองแม่ทัพภาค1 ไม่ได้ขึ้นเป็นแม่ทัพภาค 1 แต่ต้องขยับไปเป็นพลโทตำแหน่งแม่ทัพน้อย 1 แทน

ในระดับ รองแม่ทัพภาค1 คนอื่นๆจึงไม่สามารถขยับได้  เพราะว่างแค่แทน พล.ต.วรยส ที่ขยับขึ้นแม่ทัพน้อย1 เท่านั้น  โดย ดึง “รองแอ้ม” พล.ต.ณัฐเดช จันทรางศุ (ตท.28)  รองแม่ทัพน้อย 1 เป็น รองแม่ทัพภาคที่ 1 ส่งผลให้รองแม่ทัพภาค1 ทั้ง 3 ตำแหน่งเป็นเตรียมทหารรุ่น 28 ครบแน่น ไม่มีรุ่นใดขยับขึ้นมาสอดแทรกได้เลย

แต่พล.อ.เจริญชัย ก็เลือกที่จะขยับ “บิ๊กลาภ” พล.ต.สิทธิพร จุลปานะ (ตท.30) ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1รอ.) ไป เป็น รองแม่ทัพน้อยที่1 จากเดิมที่คาดกันว่าจะขยับขึ้น รองแม่ทัพภาค1

และหากเก้าอี้ไม่ว่างก็ควรให้นั่งต่อเป็นปีที่ 2 และพล.อ.เจริญชัย ก็ย้ายพลตรีสิทธิพรขึ้นมาเป็นรองแม่ทัพน้อย1 ซึ่งถือว่าไม่ใช่ตำแหน่งดีนัก เพราะตามเส้นทางจะต้องขึ้นเป็นรองแม่ทัพภาค1 เพื่อจ่อเป็นแม่ทัพภาค1

ไม่แค่นั้นตามแผนเดิม  หากพลตรีสิทธิพร ขยับก็จะเปิดทางให้ ผบ. ด้วง พล.ต.ยอดอาวุธ พึ่งพักตร์  (ตท.31) ผบ.มทบ. 11  ที่เป็นสายตรง พล.อ.อภิรัชต์ สายวงศ์เทวัญคอแดง ย้าย ระนาบมาเป็น ผบ.พล.1รอ.แทน  

แต่ พล.อ.เจริญชัย ก็เลือกเอานายทหารสายทหารเสือราชินีคอแดง อย่าง “รองซัน” พ.อ.กิตติ ประพิตรไพศาล มาเป็น ผบพล.1 รอ. คุมกำลังกองพลปฏิวัติ นี้ไว้  ส่งผลให้ ทหารเสือราชินีคอแดง ยึด กองพลที่ 1 เป็นกองพล ดั้งเดิมทหารวงศ์เทวัญได้สำเร็จ

ไม่แค่นั้น ยังเด้ง ผบ.เทพ พลตรี เทพพิทักษ์ นิมิตร (ตท.31) ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์  (ผบ.พล.ร.2รอ.) ไปเป็น รองผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า(รองผบ.รร.นายร้อย จปร.) หลุดไลน์สายคอมแมนด์

ว่ากันว่า เพราะโยกย้ายปีที่แล้ว พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ. ทบ.ในเวลานั้น แต่งตั้ง พล.ต.เทพพิทักษ์  เป็น ผบ.พล.ร.2 รอ. แซงหน้า “รองเบญ” พ.อ.เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ที่จ่อเป็นรองผบ.พล.ร2 รอ. มาก่อน

ด้วยความเป็น รุ่นน้องเตรียมทหาร 32  เลยให้ พล.ต.เทพพิทักษ์ รุ่นพี่ แซงไปก่อน แต่ก็ทำให้ บูรพาพยัคฆ์คอแดง  ปาดหน้า สายทหารเสือราชินีคอแดง ยึด กองพลบูรพาพยัคฆ์ ไปได้

นอกจากนั้น ทหารเสือราชินียังไปยึดกองพล สไตรเกอร์ กองพลทหารราบที่ 11 อีกกองพล  แม้จะเป็นกองพลทหารคอเขียวด้วยการย้าย ผบ.โอ่ง พล.ต.เอกอนันต์ เหมะบุตร  (ตท.30) ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11 (ผบ.พล.ร.11) ไป เป็น รอง ผบ.รร.นายร้อยจปร. หลุดสายกำลังรบไปอีกคน

โดยดึง “เสธ.หม่อง” พ.อ.ยุทธนา มีเจริญ  รองผบ.พล.ร.11 ทหารเสือราชินีที่เติบโตมาจาก  ร.21 รอ. ขึ้นมาเป็น ผบ.พล.ร.11  แทน จึงทำให้ทหารเสือราชินีคอแดง ยึดเก้าอี้แม่ทัพภาค1 และ 3 กองพลรบหลัก ของกองทัพภาค1 ทั้งกองพล วงศ์เทวัญคอแดง และ กองพลบูรพาพยัคฆ์คอแดง

ขณะที่กองพลทหารคอเขียว อย่างกองพลทหารราบ ที่ 9 พล.ต.วุทธยา จันทมาศ (ตท.28) เป็นมา 2 ปี

ต้องขยับ แต่ก็ไม่ได้ขึ้นรองแม่ทัพภาค 1 โดยถูกเด้งไปเป็น รองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก แทนส่ง “รองกิ๊ฟ” พ.อ.อัษฎาวุธ ปันยารชุน(ตท.29)  รองผบพล.ร.9 ขึ้นมาเป็น ผบ.พล.ร. 9 แทน

ไม่ใช่แค่ทหารราบแต่ทหารม้าก็โดนจัดแถวใหม่โดยเฉพาะ ผบ. อาร์ม พล.ต.โกญจนาท  ธูปเทียนรัตน์ (ตท.29) ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์  (ผบพล.ม2รอ.) กองพลทหารม้าปฏิวัติ  ย้ายไปเป็นรองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก หลุดออกนอกไลน์สายกำลังรบ โดย ดึง พ.อ.ศรัณย์  รอดบุญธรรม ทหารม้าคอแดง เสนาธิการกองทัพภาค1 อดีต ผบ.ม.พัน.4 รอ.  ข้ามกลับ สนามเป้าไป เป็น ผบ.พล.ม.2รอ.

การเปลี่ยน ผู้บัญชาการกองพลถึง 5 กองพลหลักสำคัญนี้ถูกมองว่า เป็นปฏิบัติการล้างอำนาจของกลุ่มทหารคอแดงนอกกองทัพบก ด้วยเพราะ พล.อ.เจริญชัย จะเกษียณราชการและไม่ต้องไปรับตำแหน่งพิเศษใดๆแล้ว

แต่ที่ถูกจับตามองคือเมื่อ พล.อ.พนา ตท.26 ขึ้นมาเป็นผบ.ทบ. ก็อาจจะต้องเยียวยา ในส่วนนี้เนื่องจากมีความสัมพันธ์อันดีกับเตรียมทหารรุ่น 28 และนายทหารคอแดง นอกกองทัพบก ที่มีอำนาจและบารมี

เพราะโดยธรรมชาติเตรียมทหารรุ่น 26 ก็จะแข่งกับเตรียมทหารรุ่น 27 ที่ตอนนี้มี พล.ท.อมฤต  เป็นแกนนำ ในฐานะแม่ทัพภาค1 คนใหม่ โดยมีรุ่นน้องทหารเสือราชินีที่เป็นสายตรง “บิ๊กตู่” และ “บิ๊กต่อ” คุมกำลังในระดับกองพลอยู่อย่างเบ็ดเสร็จ 

จึงต้องจับตามองว่าการขึ้นเป็นผบ.ทบ. ของ พล.อ.พนาโดยไม่สามารถคุมกำลัง รบ ได้เองทั้งหมด จะต้องแก้ปัญหาและบริหารจัดการอำนาจในมือของตนเองอย่างไร

เพราะงานนี้ไม่ใช่แค่ปัญหาภายในกองทัพบกกันเองเท่านั้นแต่ยังมีปัญหาระหว่างทหารในกองทัพบกและนอกกองทัพบกอีกด้วย