วันที่ 26 ก.ย. 67 ที่ห้องประชุม 108 ชั้น 1 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงผลการประชุม คณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบ อุทกภัย วาตภัย และ ดินโคลนถล่ม (ศปช.) ครั้งที่ 2 ว่า ทุกหน่วยราชการมีความพร้อมในการทำหน้าที่อย่างเต็มที่ แต่อุทกภัยครั้งนี้ทิ้งโคลนไว้ อย่างที่จังหวัดเชียงรายก็กำลังวางแผนบูรณาการ 

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนเรื่องอาหารสด และปัญหาถุงยังชีพมีมากพอ ตอนนี้ต้องการสิ่งที่จะฟื้นฟูจัดการเรื่องโคลน ซึ่งต้องใช้รถดูดโคลน รถน้ำ เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง และกำลังคน ซึ่งได้ประสานงานกับหน่วยต่างๆให้เคลียร์ถนนใหญ่ให้เสร็จก่อน แล้วค่อยเข้าซอยต่างๆ เพื่อไปช่วยชาวบ้าน โดยมีการมอบหมายแต่กระทรวงรับผิดชอบแบ่งพื้นที่ให้ชัดเจน สำหรับการเข้าฟื้นฟูบ้านเรือน บ้านหลังหนึ่งมีโคลน 1-2 เมตร ใช้กำลังพลประมาณ 30 คน ในการดำเนินการ ซึ่งตอนนี้มีอาสาสมัครจาก ปภ. กองอาสารักษาดินแดน (อส.) ทหาร และนักโทษชั้นดีจากกรมราชทัณฑ์และมูลนิธิเอกชน เข้ามาช่วย แต่อยากได้เครื่องมือ เช่น จอบ เสียม เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง รถแบ็คโฮ รถคูโบต้า เพราะโคลนเหล่านี้หากอยู่ตามท่อ และในบ้าน ทิ้งไว้นานจะเป็นหินปูนได้ อยากให้ทุกฝ่ายจดบันทึกเป็นบทเรียน เพราะเรายังต้องเผชิญกับภาวะแบบนี้อีก จึงต้องเตรียมหาอุปกรณ์ต่างๆ รองรับ ซึ่งหลังจากนี้ก็คงจะมีการพูดต่อไป 

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในวันที่ 27 ก.ย. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และ รองนายกฯ ที่เกี่ยวข้อง จะลงพื้นที่เชียงราย และค้างคืน เพื่อรับทราบสถานการณ์และแก้ปัญหาในพื้นที่ ส่วนวันที่ 28 ก.ย. นายกฯ จะเดินทางต่อไปที่ จ.เชียงใหม่ ขณะที่รองนายกฯคนอื่น จะกระจายลงพื้นที่ โดยตนและนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจษฐกิจและสังคม จะเดินทางไปที่ จ.ลำปาง เพื่อดูเขื่อนที่ตอนนี้ระดับน้ำอยู่ในภาวะวิกฤต

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนระบบเตือนภัย ตอนนี้สามารถเตือนภัยผ่าน SMS ทางโทรศัพท์ถึงประชาชนได้โดยตรง นอกจากนี้ที่ประชุม ศปช. แต่งตั้ง นายปลอดประสพ สุรัสวดี เป็นที่ปรึกษา ศปช. เนื่องจากต้องใช้ความรู้ทางเทคนิค และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ เป็นโฆษก ศปช. เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร

นายภูมิธรรม กล่าวว่า สำหรับการจ่ายเงินเยียวยา หลังนายกฯ ลงพื้นที่ในวันที่ 27 ก.ย.  จะสั่งการให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเงิน 3,000 ล้านบาท ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติ ได้โอนไปที่ ปภ. แล้ว แต่ยังมีปัญหาเรื่องกฎระเบียบการใช้เงิน ซึ่งจะลดขั้นตอนจาก 30 วัน ให้เหลือ 5 วัน โดยเงินก้อนแรกจะจ่ายให้ครอบครัวละ 5,000 บาท ซึ่งผู้ว่าฯ สามารถจ้ายได้เลย เพราะมีงบจังหวัดละ 200 ล้านบาทอยู่แล้ว เบื้องต้นพยายามจะจ่ายให้ทั่วถึงก่อน จากนั้นจะพิจารณาเพิ่มเติม

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนกรณีอาสาสมัครที่นำรถมาช่วยน้ำท่วม เมื่อเดินทางกลับ ถูกกรมทางหลวง และตำรวจจับ ดำเนินคดีนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในที่ประชุมได้มีการพูดคุยกันอยากให้มีการประสานงานก่อน ในการนำอุปกรณ์ไปช่วย เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน แทนที่จะช่วยกลายเป็นเอาอุปกรณ์ไปกองรวมกัน กลายเป็นอุปสรรคในการทำงาน รวมถึงการบรรทุกน้ำหนักเกิน ทำให้ตำรวจทางหลวงห่วงใย เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายและกระทบต่อผู้อื่นที่ใช้เส้นทางจึงขอดูข้อกฎหมายให้ดี และขอให้ช่วยผ่อนปรนอำนวยความสะดวกเพื่อแก้ปัญหาช่วงวิกฤตนี้ ในการหาทางออกร่วมร่วมกัน

เมื่อถามว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่เชียงใหม่จะมีการดำเนินการอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในวันที่ 27 ก.ย. จะมีการเสนอนายกฯ แก้ปัญหา ซึ่งกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ยินดีคืนพื้นที่ให้ เพื่อให้ระบายน้ำคล่องตัวมากขึ้น ตรงไหนมีสะพาน มีตอหม้อขวางอยู่ ก็จะยกสะพานขึ้น เมื่อน้ำไหลคล่องตัวขึ้น การเอ่อล้นท่วมในเมืองก็จะลดลง โดยจะทำงานแข่งกับเวลาเพื่อไม่ให้เป็นปัญหาในอนาคต ให้ครอบคลุมทุกพื้นที โดยในพื้นที่ อ.เมือง จ.เชียงราย กำหนดดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 29 ก.ย. 67 ส่วนการดำเนินการในพื้นที่อำเภอแม่สาย แบ่งการดำเนินการเป็น 5 โซน กำหนดดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 30 วัน หรือประมาณวันที่ 20 ต.ค. 67 ขณะที่ภาคอีสาน สถานการณ์ยังไม่วิกฤต แต่มีหน่วยงาน ปภ. และกองทัพภาคที่ 2 ดูแลอยู่แล้ว