"ชาญ" อ่วม  ศาลปกครองยกฟ้องกรณี อบจ.ปทุมธานรและผู้ว่าฯ ปทุมธานี  สั่งชดใช้ค่าเสียหาย  จัดซื้อเครื่องออกกำลังกายแพงเกินจริง   ประมาทเลินเล่อร้ายแรง ทำ อบจ.เสียหาย  ชี้จำนวนที่สั่งให้ชดใช้เหมาะสมแล้ว

วันนี้ ( 25 ก.ย.)   ศาลปกครองกลาง  พิพากษายกฟ้องคดีที่นายชาญ  พวงเพ็ชร์  ฟ้องเพิกถอนคำสั่งที่ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี    กรณีการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี    ระหว่างปีงบประมาณ 2555  ถึงปีงบประมาณ 2566   และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ที่ให้ยกอุทธรณ์ของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ) ที่ได้มีคำสั่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ที่  02390/2564  ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2564 ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กรณีการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี  ในราคาที่สูงกว่าที่ควรจะเป็น ทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย   ซึ่งผู้ฟ้องคดีที่ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าวจึงได้ยื่นอุทธรณ์ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี   (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ) ต่อมา ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ได้มีคำวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์    นายชาญเห็นว่า คำสั่งและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ข้างต้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงนำคดีมาฟ้องต่อศาล

ศาลปกครองกลางพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติแล้วว่า  นายชาญได้อนุมัติสั่งซื้อเครื่องออกกำลังกายตามรายงานขออนุมัติจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายตามโครงการส่งเสริมสุขภาพที่ดีของประชาชนจังหวัดปทุมธานี จำนวน 7 ครั้ง โดยมิได้มีการสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำการสืบราคาที่ซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาดจากเอกชน    ที่เป็นผู้ประกอบการหรือผู้มีอาชีพจำหน่ายเครื่องออกกำลังกาย     มาวิเคราะห์และกำหนดเป็นราคาอ้างอิง    แล้วนำผลการสืบราคาดังกล่าวมาประกอบการพิจารณากำหนดประมาณการราคาในการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เป็นเหตุให้ประมาณการราคาในการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายตามโครงการดังกล่าวสูงกว่าราคาที่ซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาด     


ซึ่งหากนายชาญในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี    และเป็นผู้มีอำนาจสั่งซื้อได้ควบคุมตรวจสอบกระบวนการและขั้นตอนในการจัดซื้อ ตลอดจนพิจารณารายงานขออนุมัติจัดซื้อในแต่ละโครงการที่ผู้ใต้บังคับบัญชาเสนอมาด้วยความละเอียดรอบคอบ   ย่อมจะตรวจพบได้ว่า การจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายตามรายงานขออนุมัติจัดซื้อตามโครงการดังกล่าวยังมิได้ทำการสืบราคาที่ซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาด    เนื่องจากในรายงานขออนุมัติจัดซื้อนั้น ระบุเพียงว่า เป็นครุภัณฑ์ที่ไม่มีกำหนดไว้ในบัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์    ตั้งงบประมาณตามราคาท้องถิ่น โดยไม่ปรากฏรายละเอียดของการสืบราคาหรือที่มาของประมาณการราคาในรายงานขออนุมัติจัดซื้อหรือเอกสารหลักฐานประกอบรายงานขออนุมัติจัดซื้อ   อันถือเป็นสาระสำคัญในการจัดซื้อพัสดุ 


การที่ผู้ฟ้องคดีลงนามอนุมัติในรายงานขออนุมัติจัดซื้อที่ผู้ใต้บังคับบัญชาเสนอมาโดยมิได้ทักท้วงใดๆ เป็นเหตุให้ประมาณการราคาในการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายสูงกว่าราคาที่ซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาด   จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยปราศจากความรอบคอบระมัดระวังที่เบี่ยงเบนไปจากวิสัยของผู้มีอำนาจอนุญาตสั่งซื้ออย่างมาก    และเป็นการไม่ดูแลรักษาผลประโยชน์ของทางราชการ   จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีได้รับความเสียหายที่ต้องจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายตามโครงการดังกล่าวในราคาที่สูงกว่าราคาที่ซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาด อันเป็นการกระทำละเมิดต่อองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี     จึงต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี     และเมื่อรวมความเสียหายที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีได้รับจากการประมาณการราคาในการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายตามโครงการส่งเสริมสุขภาพที่ดีของประชาชนจังหวัดปทุมธานี    คำนวณเฉพาะรายการเครื่องออกกำลังกาย จำนวน 8   อุปกรณ์ ในส่วนที่นายชาญเป็นผู้ลงนามอนุมัติจัดซื้อ จำนวน 7  สัญญาสูงกว่าราคาที่ซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาด คิดเป็นเงินจำนวน 33,657,049.92  บาท


แต่อย่างไรก็ดี เมื่อองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีได้ใช้สิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนในความเสียหายกรณีดังกล่าว  เป็นเงินจำนวน 31,071,932 บาท  ศาลจึงไม่อาจวินิจฉัยเกินกว่าความเสียหายที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีใช้สิทธิเรียกร้องได้  


และเมื่อได้วินิจฉัยแล้วว่า นายชาญปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง   เป็นเหตุให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีได้รับความเสียหายที่ต้องจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย ในราคาที่สูงกว่าราคาที่ซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาด อันเป็นการกระทำละเมิดต่อองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี  นายชาญ ผู้ฟ้องคดีที่ 1  จึงต้องรับผิดในความเสียหายแต่เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ในการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายตามโครงการส่งเสริมสุขภาพที่ดีของประชาชนจังหวัดปทุมธานีขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีนั้น    เป็นโครงการที่สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีได้เสนอต่อองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี    เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและปรับปรุงคุณภาพชีวิตในด้านต่าง ๆ   อันเป็นโครงการที่มาจากความต้องการของประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งในขณะที่มีการตรวจสอบสืบสวนกรณีดังกล่าว    อุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายก็ยังอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้เป็นอย่างดีเมื่อเทียบกับระยะเวลานับตั้งแต่วันที่มีการติดตั้งเครื่องออกกำลังกายจนถึงวันที่มีการตรวจสอบ    


เมื่อพิจารณาถึงระดับความร้ายแรงแห่งการกระทำและความเป็นธรรมในกรณีดังกล่าวแล้วเห็นว่า การที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีมีคำสั่งให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี  ในอัตราร้อยละ 50  ของความเสียหายในส่วนที่ผู้ฟ้องคดีที่  1 เป็นผู้ลงนามอนุมัติจัดซื้อ จำนวน 7 สัญญา คิดเป็นเงินจำนวน 15,535,966 บาท  และให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในอัตราร้อยละ 15  ของความเสียหายดังกล่าว คิดเป็นเงินจำนวน 2,330,394.90 บาท  จึงเป็นการกำหนดความเสียหายและสัดส่วนความรับผิดที่เหมาะสม    ดังนั้น คำสั่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ที่ 02390/2564  ลงวันที่ 8  ธันวาคม 2564 ที่ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เป็นเงินจำนวน 2,330,394.89 บาท   จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย    และเมื่อได้วินิจฉัยแล้วว่า คำสั่งที่ให้ผู้ฟ้องคดีที่ 1  ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี    เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้น คำวินิจฉัยอุทธรณ์ที่ให้ยกอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีที่ 1  จึงชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน  พิพากษายกฟ้อง