วันที่ 25 ก.ย.67 เวลา 11.30 น. ที่ศูนย์ประสานงานเพจสายไหมต้องรอด เขตสายไหม กทม.  พยาบาลวิชาชีพ รพ.ชื่อดัง พร้อมพวก ได้พาตัวแทนผู้เสียหาย 20 คน มีทั้ง ครู หมอ วิศวะกร นักกฎหมาย จากผู้เสียหายทั้งหมดกว่า 5,000 คน เข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจาก นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กรณีที่ถูกกลุ่มบุคคลอ้างตัวว่าเป็นตัวแทนบริษัทประกันชื่อดัง ขึ้นต้นด้วยตัว R ชื่อมี 3 พยางค์ ตั้งอยู่ที่ประเทศอังกฤษ สร้างเพจเฟซบุ๊ก และลงโฆษณาตามสื่อออนไลน์ต่างๆ ชักชวนให้พ่อแม่ซื้อประกันให้กับลูก โดยเบี้ยประกันเริ่มต้น 27,000 บาท/ปี  จึงเป็นที่สนใจของพ่อแม่ที่จะซื้อประกันให้ลูกมาก ซึ่งในขณะนี้เป็นที่รู้กันในกลุ่มพ่อแม่ว่า ประกันสุขภาพสำหรับเด็กในประเทศไทย หลายบริษัทได้ยกเลิกไปแล้ว บริษัทที่ยังรับอยู่เบี้ยประกันก็จะสูงมาก จึงเป็นช่องว่างที่มิจฉาชีพกลุ่มนี้จะอาศัยช่วงเวลานี้มาหลอกลวงประชาชน ทำให้มีคนหลงเชื่อและตัดสินใจซื้อประกันขณะนี้กว่า 5,000 คน มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท 

น.ส.นปภา กล่าวว่า ตนตัดสินใจซื้อประกันในราคา 27,000 บาท/ปี เพื่อเป็นหลักประกันให้ลูกชายวัย 2 ขวบ เวลาเจ็บป่วยจะได้ไม่ต้องกังวลใจเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษา ต่อมาลูกไม่สบายจึงได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แต่ถูกบริษัทประกันดังกล่าวเบี้ยวจ่ายเงินค่ารักษา ทำให้ตนต้องเป็นหนี้โรงพยาบาล จึงเริ่มเข้าไปค้นหาข้อมูลในออนไลน์ทำให้ทราบว่ามีผู้ประสบชะตากรรมเดียวกับครอบครัวของตนจำนวนมาก ซึ่งถูกบริษัทประกันรายนี้เบี้ยวจ่ายเงิน ต้องเป็นหนี้โรงพยาบาล ขณะนี้รวบรวมได้กว่า 200 ราย จากจำนวนผู้เสียหายกว่า 5,000 ราย 

น.ส.นปภา กล่าวต่อว่า พวกตนเคยนำเรื่องดังกล่าวเข้าไปแจ้งกับทาง คปภ.แล้วเมื่อหลายเดือนก่อน ขณะนั้นมีผู้เสียหายจาก 2,000 สุดท้ายเรื่องก็ไม่มีความคืบหน้าอะไร ตัวแทนบริษัทยังคงขายประกันอย่างต่อเนื่อง ผู้เสียหายจาก 2,000 คน เพิ่มเป็น 5,000 คน อย่างรวดเร็ว พวกตนจึงเข้าไปสอบถาม คปภ. อีกครั้ง คปภ. ให้คำตอบเพียงสั้นๆว่า  "บริษัทประกันดังกล่าว ไม่มีชื่อจดทะเบียนในประเทศไทย คปภ. จึงไม่สามารถทำอะไรได้" พวกตนหมดหนทาง ไร้ที่พึ่ง จึงตัดสินใจเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ #เพจสายไหมต้องรอด ดังกล่าว 

ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด มองว่า พฤติกรรมดังกล่าว มีลักษณะคล้ายกับการหลอกลงทุนมาก คือ ชักชวนคนมาซื้อประกัน (ระดมทุน) ระยะแรกจะเคลมประกันได้เพื่อให้คนหลงเชื่อ (สร้างความน่าเชื่อถือ) จากนั้นเหยื่อก็จะไปแนะนำคนใกล้ตัวให้มาซื้อประกัน พอมีคนมาซื้อประกันเยอะมากขึ้นๆก็เริ่มมีปัญหา อ้างโน้น อ้างนี้ สุดท้ายผู้เสียหายก็จะไม่ได้เงินคืน ส่วนใครที่โวยวาย ทางบริษัทก็จะเรียกไปคุยส่วนตัว ยอมคืนเงินเพื่อให้จบเรื่อง เคสนี้เจ้าภาพหลักในการตรวจสอบช่วยเหลือประชาชน เพื่อให้เกิดคสามเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จะต้องเป็น คปภ.หากตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ อาจเข้าข่ายหลอกลวง หรือ ช่อโกงประชนชนหรือไม่ คปภ.ก็ต้องดำเนินคดีเอาผิดให้ถึงที่สุด โดยในระหว่างนี้ ได้แนะนำให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่โรงพักให้บ้านควบคู่กันไปด้วย โดยตนได้มอบหมายให้ ทนายนุ๊ก ณัชชามณฑ์ ณัฏฐะพิชาญ์ ทนายเพจสายไหมต้องรอด ติดตามความคืบหน้าทางคดีอย่างใกล้ชิด