วันที่ 25 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ สภ.ร่อนพิบูลย์ นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่สืบสวน กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช เร่งคัดแยกชาวโรงฮิงญา และชาวเมียนมา รวมจำนวน 22 คน เพื่อแยกระหว่างเยาวชนอายุไม่ถึง 20 ปี หญิง ชาย รวมทั้งแยกผู้ที่มีอายุเกิน 20 ปี เพื่อคัดกรองเบื้องต้น หลังจากชาวโรฮิงญาและชาวเมียนมา กลุ่มนี้ถูกจับกุมบนรถบรรทุก 18 ล้อชนิดลากแคร่บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ โดยพันตำรวจเอกพิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ ผู้กำกับการ กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช พร้อมกำลังเข้าทำการ สกัดจับไว้ได้ที่บริเวณจุดตรวจแยกสวนผัก ถนนสาย 41 ตำบลร่อนพิบูลย์ อำเภอร่อนพิบูลย์ นครศรีธรรมราช
โดยการจับกุมพบว่าขบวนการได้ใช้รถยนต์บรรทุก 18 ล้อชนิดลากแคร่บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ มีสามีภรรยาเป็นชาวไทยเป็นผู้ขับขี่และภรรยาได้นั่งโดยสารมาตอนหน้า ส่วนชาวต่างด้าวที่ถูกขนย้ายมานั้นเป็นชาวเมียนมาจำนวน 12 คนอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ ส่วนชาวโรฮิงญาจำนวน 10 คนส่วนใหญ่เป็นหญิงอายุต่ำกว่า 20 ปี ถูกให้นอนยัดอยู่ระหว่างแคร่บรรทุกใต้ตู้คอนเทนเนอร์มีแผ่นไม้รองรับ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการคัดกรองพบว่าเป็นเยาวชนทั้งหมด จึงเร่งประสานสหวิชาชีพเข้าร่วมตรวจสอบคัดกรองกลุ่มคนเหล่านี้เพื่อพิจารณาคัดแยกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์หรือไม่
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้นได้ความว่ากลุ่มชาวโรฮิงญา ได้เดินเท้าเข้าประเทศไทยผ่านทางอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก หลังจากนั้นได้เดินทางเข้ามาอยู่ในกรุงเทพมหานคร ก่อนถูกนำตัวมาส่งที่ปทุมธานี ส่วนกลุ่มชาวเมียนมาได้เดินเท้าเข้ามาทางด้านจังหวัดกาญจนบุรี จากนั้นได้กระจายกันเดินทางโดยรถซึ่งมีผู้มารับเป็นชาวไทยมาส่งขึ้นรถบรรทุก 18 ล้อที่ปทุมธานี โดยชาวเมียนมาร์จะได้อยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ ส่วนชาวโรฮิงญา ถูกนำมาไว้ในช่องลับใต้ตู้คอนเทนเนอร์เพื่อป้องกันปัญหาทะเลาะวิวาท โดยพบข้อมูลว่ารถคันเดียวกันนี้ขนชาวเมียนมาและโรฮิงญาแล้วอย่างต่อเนื่อง ช่วงเดือนที่ผ่านมาขนย้ายไปแล้วนับร้อยคน ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างสอบสวนขยายผล