วันที่ 24 ก.ย. 67 ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ ถึงการมอบหมายให้ทนายความ ไปดำเนินการแจ้งความเป็นการส่วนตัวที่ สน.หัวหมาก เพื่อขอให้สืบสวน กรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ นำคลิปเสียงดักฟังของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นำมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อ 13 กันยายน ที่ผ่านมาว่า การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายประกาศ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ฉบับที่ 21 เรื่องการห้ามดักฟังโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารใด ส่วนที่อาจเข้าข่ายคือข้อที่ 2 นำไปเปิดเผยกับผู้อื่น ซึ่งขณะนี้ให้อยู่ในอำนาจการทำงานของพนักงานสอบสวน หากว่าเป็นการกระทำผิด ขอให้ดำเนินคดีอาญาต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีการทำของนายพร้อมพงศ์ที่ต่างกรรมต่างวาระมาก ตนกำลังรอพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แตะที่ยังไม่ดำเนินการเพราะว่าไม่ได้ห่วงอะไรมาก ความผิดที่จะแจ้งความมีโทษจำคุก 5 ปี มีอายุความ 10 ปี จึงมีเวลาเหลือมาก
นายไพบูลย์ กล่าวว่า ส่วนการเตรียมคำฟ้องนายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ และรักษาการผู้อำนวยการบริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) ในคดีหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ซึ่งจะมีการส่งคำฟ้องไปยังศาลอาญา พร้อมกับที่ศาลเเพ่ง ในการเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท โดยความคืบหน้า คาดว่าคำฟ้องจะแล้วเสร็จในสัปดาห์นี้ และยื่นต่อศาลในวันที่ 30 กันยายน
นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า เชื่อว่าจากข้อกฎหมายมีความน่าจะเป็นสูงมาก แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้เป็นไปตามการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ก่อน