วันที่ 24 ก.ย.67 ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ รองผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว รองผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1บก.ปคบ. พ.ต.ท.ไพรัช พรมวงศ์ รองผกก.1บก.ปคบ. ร่วมแถลงผลการล้างบางขบวนการคุณหลอกดาวน์ 

พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า ก่อนหน้าเจ้าหน้าที่ได้รับการแจ้งความจากผู้เสียหายถึงการเข้าซื้อรถ จักรยานยนต์ จากเพจ Facebook ชื่อ Mr.Bike โดยติดต่อขอซื้อกับผู้เสียหายรายหนึ่งในราคา 310,000 บาทและได้ออกเช็คเงินสดผูกกับบัญชีของนายอรรถพล (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาที่ 1 เพื่อเป็นหลักประกันในการนำรถไปตรวจสภาพก่อนโอน จากการสืบสวนพบมีผู้ร่วมกระทำความผิดในกระบวนการนี้ 5 คนมีพฤติกรรมการก่อเหตุคือ ร่วมกันเปิดเพจ Facebook ปลอมเป็นร้านรับซื้อรถจักรยานยนต์ ติดต่อขอซื้อรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ที่มีกลุ่มผู้เสียหายประกาศขายดาวน์ผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งกลุ่มคนร้ายจะจ้างบริษัทขนส่งเอกชนให้ไปรับรถกับผู้เสียหายโดยไม่ให้ผู้เสียหายติดต่อกับคนขับรถขนส่งโดยตรง และกลุ่มผู้ต้องหาจะเป็นคนประสานเองเมื่อได้รถแล้วก็จะนำรถไปไว้กับผู้หาที่ 2 คือนายนวพล (ขอสงวนนามสกุล) จากนั้นจะมีการจ้างรถขนส่งเอกชน และเปลี่ยนเจ้ามารับรถของผู้เสียหายอีกทอดเพื่อส่งต่อ ไปอีกเจ้าเป็นทอดๆ และจะมีผู้ต้องหาคนอื่นๆมาส่งต่อไปยังผู้ว่าจ้างในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อให้ยากแก่การติดตาม ก่อนจะโอนเงินค่าจ้างให้กับคนขับรถขนส่ง 

พล.ต.ต.วิทยา กล่าวต่อว่า นอกจากผู้เสียหายที่มาร้องทุกข์กับ ปคบ.แล้วยังมีผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายในลักษณะเดียวกันกับคดีนี้ปรากฏในกลุ่มไลน์และสื่อโซเชียลกว่า 23 รายรวมความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท

พล.ต.ต.วิทยา กล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาจาก 5 รายได้ 4 รายประกอบด้วย 1.นายนวพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี 2.นายกฤษณะ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี 3.นายไกรวุฒิ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี 4.นายแสงชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี ส่วนนายอรรถพล (ขอสงวนนามสกุล) ขณะนี้หลบหนีอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านและยังตรวจสอบพบอีกว่า นายอรรถพล มีหมายจับติดตัว จำนวน 11 หมาย เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาผู้ก่อเหตุทั้งหมดในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนร่วมกันทุจริต โดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และบิดเบือนข้อมูลหรือปลอมทั้งหมดคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญประการอื่น อันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือผู้อื่น และจากการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาทั้ง 4 รายยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อหา