วันที่ 24 ก.ย.67 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน นายพรเพชร วิชิตชลชัย พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร และนายศุภชัย สมเจริญ กรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาเมื่อวันที่ 23 ก.ค.67
โดยนายพรเพชร อดีตประธานวุฒิสภา แจ้งสถานะคู่สมรสเสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.61 และตนเองมีทรัพย์สินรวม 63,440, 408 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 10 บัญชี 38,362,802 บาท เงินลงทุนในกองทุนเปิดตราสารหนี้และหุ้นสหกรณ์ 7,284,654 บาทที่ดิน 4 แปลง 12,256,200 บาท โดย 3 แปลงอยู่ในจ.ปทุมธานี และอีก 1 แปลงเนื้อที่ 1 งาน 41 ตารางวาใน ต.คลองสาน (บางลําภูล่าง)กรุงเทพฯ ระบุมูลค่า 10,456,200 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง เป็นบ้านพัก 2 ชั้น 2 หลัง เขตคลองสาน กทม.รวม 976, 752 บาท ยานพาหนะเป็นรถยนต์ mercedes benz และ toyota camry รวม 2.58 ล้านบาท
ทรัพย์สินอื่น 1.98 ล้านบาทอาทิ แหวนเพชร รวม 3 กะรัต 2 รายการมูลค่า 300,000 บาทมรกต 6 ชิ้น 1 รายการมูลค่า 60,000 บาทกำไลพลอยและเพชรซีก 2 ชิ้น 1 รายการมูลค่า 30,000 บาท แหวนแกมเพชร 1 วงมูลค่า 80,000 บาท เหรียญทองคำเฉลิมพระเกียรติ 3 รายการมูลค่า 90,000 บาทเหรียญทองคำเฉลิมพระเกียรติประดับเพชร 4 รายการ 160,000 บาท นาฬิกา patek philippe 1รายการ มูลค่า 800,000 บาท และแจ้ง ไม่มีหนี้สิน
นอกจากนี้แจ้งมีรายได้ต่อปีรวม 24,405,859 บาทแบ่งเป็นเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 74,420 บาทเป็นระยะเวลา 7 เดือน(ม.ค.-ก.ค.)520,940บาท เงินเพิ่มเดือนละ 54,500 บาทเป็นระยะเวลา 7 เดือน(ม.ค.-มิ.ย.)381,500 บาท เบี้ยประชุมในตำแหน่งประธานวุฒิสภาและรองประธานรัฐสภาระยะเวลา 6 เดือน(มค.-มิ.ย.)186,400 บาท เงินบำนาญสำนักงานศาลยุติธรรมเป็นระยะเวลา 12 เดือน(ม.ค.-ธ.ค.) 645,656 บาท รับมรดกของคู่สมรสปี 2560 รวม 20,671,363 บาท มีรายจ่ายต่อปีรวม 1,474,000 บาท เป็นค่าอุปโภคบริโภค 360,000 บาท ค่าน้ำ ค่าไฟ 180,000 บาท ค่าโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต 30,000 บาท ค่าน้ำมันรถ 240,000 บาท ค่าบำรุงรักษารถยนต์และประกันภัย 150,000 บาท ค่าจ้างแม่บ้านรับใช้ 264,000 บาท เงินบริจาค 100,000 บาท อุปการะน้องและหลาน 50,000 บาท ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว 100,000 บาท
ทั้งนี้หลังรัฐประหารของคสช.นายพรเพชร ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติเมื่อปี 2557 -2562 ก่อนเข้ารับตำแหน่งประธานวุฒิสภาเมื่อ28พ.ค.62 ซึ่งครั้งเข้ารับตำแหน่งประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติเมื่อปี 57 ได้แจ้งต่อป.ป.ช.มีทรัพย์สินหนี้สินรวม48 ,536,225 บาท ไม่มีหนี้สิน ต่อมาได้เข้ารับตำแหน่งประธานวุฒิสภาในปี 62 ได้รับการยกเว้นจากพ.ร.ป.ป.ปช.มาตรา 105 ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สิน ดั้งนั้นเมื่อเทียบทรัพย์สินที่นายพรเพชรเคยแจ้งไว้ปี57 กับที่แจ้งคราวพ้นจากตำแหน่งสว. ครั้งนี้ ระยะเวลา10ปีที่นายพรเพชรดำรงตำแหน่ง มีทรัพย์สินเพิ่ม14,904,183บาท
ส่วนพล.อ.สิงห์ศึก อดีตรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 แจ้งว่าตนเองและนางศรีสุดา สิงห์ไพร คู่สมรส มีทรัพย์สินรวม 57,456,629 บาท ไม่มีหนี้สิน
แยกเป็นทรัพย์สินของพล.อ.สิงห์ศึก 30,563,491 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 6 บัญชี 9,570,276 บาท เงินลงทุนในกองทุนเปิดต่างๆ 4,954,240 บาท ที่ดิน 11 แปลงในจ.เชียงราย สระบุรีสิงห์บุรีรวม 10,573,975 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2 หลัง 3.65 ล้านบาท ยานพาหนะ 1.52 ล้านบาท ทรัพย์สินอื่น 295,000 บาท
นอกจากนี้แจ้งมีรายได้ต่อปี 3,049,611 บาท แบ่งเป็นเงินบำนาญ 843,144 บาทเงินประจำตำแหน่ง 878,880 บาทเงินเพิ่มสว. 510,000 บาท เบี้ยประชุม 296,500 บาท รายได้จากการขายห้องชุด 25,000 บาทขายรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ 200,000 บาทขายจักรยานยนต์เวสป้า 15,000 บาท ดอกเบี้ยจากตราสารด้อยสิทธิ ธ.กรุงศรีอยุธยา 51,419 บาท ดอกเบี้ยจากหุ้นกู้บริษัทกัลฟ์เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด มหาชน29,668 บาท มีรายจ่ายต่อปีรวม 1.15 ล้านบาท
ส่วนนางศรีสุดามีทรัพย์สินรวม 26,893,138 บาท เงินฝาก 8 บัญชี 5,859,018 บาทเงินลงทุน 4,792,170 บาทที่ดิน 8 แปลง ในจ.สิงห์บุรีและกรุงเทพมหานครรวม 9,693,950 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2หลัง 5.2 ล้านบาท ยานพาหนะ 850,000 บาททรัพย์สินอื่น 498,000 บาท และแจ้งมีรายได้ต่อปีรวม749,474 บาท แบ่งเป็นเงินบำนาญ 617,217 บาท ดอกเบี้ยหุ้นกู้บริษัทไทยเบฟเวอเรจจำกัดมหาชน 6,647 บาทเงินปันผลสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงแรงงาน 98,136 บาท ดอกเบี้ยหุ้นกู้บริษัทปูนซิเมนต์ไทยจำกัดมหาชน 27,473 บาท มีรายจ่ายต่อปีรวม 288,000 บาท
สำหรับทรัพย์สินของทั้งคู่ สร้อยคอพระเครื่อง 5 องค์มูลค่า 90,000 บาทเหรียญพระราชทาน 4 รายการระบุประเมินค่ามิได้ ปืนพกสั้น และปืนลูกซองยาวรวม 5 กระบอก มูลค่า 100,000 บาท แหวนเพชรเม็ดเดียวกัน 1 วงมูลค่า 120,000 บาท สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3.79 บาท 1 เส้นมูลค่า 54,000 บาทสร้อยคอและต่างหูทองคำดูไบน้ำหนัก 2.5 บาทมูลค่า 30,000 บาท เป็นต้น
ขณะที่นายศุภชัย อดีตรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2แจ้งว่าตนเองและนางแน่งน้อย สมเจริญ คู่สมรส มีทรัพย์สินรวม 46,149,113 บาท ไม่มีหนี้สิน แบ่งเป็นทรัพย์สินของนายศุภชัย 24,125,918 บาท ประกอบด้วยเงินฝาก 7 บัญชี 16,057,262 บาท เงินลงทุนในกองทุนเปิดต่างๆ 6,320,656 บาท ที่ดิน 1 แปลงในอ.เสนาจ.อยุธยา800,000 บาททรัพย์สินอื่น 948,000 บาท
แจ้งมีรายได้ต่อปีรวม 3,384,713 บาทแบ่งเป็นจากเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่ม 1,388,880 บาทเงินบำนาญ 811,288 บาทเบี้ยประชุม 157,800 บาท เงินปันผลสหกรณ์ออมทรัพย์ 111,078 บาทดอกเบี้ยเงินฝาก 308,817 บาท เงินปันผลกองทุนรวม 10,848บาท เงินคืนประกันชีวิต 396,000 บาทขายรถยนต์ยี่ห้อ lexus 200,000 บาท มีรายจ่ายต่อปี 905,396 บาท โดยเป็นค่าใช้จ่ายอุปโภคบริโภค 400,000 บาทท่องเที่ยว 300,000 บาทเงินบริจาค 205,396 บาท
ส่วนนางแน่งน้อยมีทรัพย์สินรวม 22,023,194 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 3 บัญชี 9,034,784 บาท,เงินลงทุน 2,440,409 บาท ที่ดิน 3 แปลงในเขตบางกรวยกรุงเทพฯ รวม5.53 ล้านบาทโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 3.8 ล้านบาทยานพาหนะ 250,000 บาททรัพย์สินอื่น 968,000 บาท และแจ้งมีรายได้ต่อปี 964,676 บาทแบ่งเป็นเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่ม 228,000 บาทเงินบำนาญ 374,784 บาท เงินปันผลสหกรณ์ออมทรัพย์ 94,910 บาทดอกเบี้ยเงินฝาก 166, 982 บาท เงินคืนประกันชีวิต 100,000 บาท มีรายจ่ายต่อปีรวม 719,599 บาท เป็นค่าใช้จ่ายอุปโภคบริโภค 350,000 บาทค่าใช้จ่ายท่องเที่ยว 300,000 บาทเงินบริจาค 69,599 บาท
สำหรับทรัพย์สินอื่นที่น่าสนใจของทั้งคู่ อาทินาฬิกาข้อมือ 4 รายการมูลค่า 410,000 บาท แหวนทองคำหัวพลอยล้อมเพชร 4 รายการมูลค่า 250,000 บาทอาวุธปืนสั้น 1 รายการมูลค่า 10,000 บาท แหวนทองคำหัวเพชรและพลอย 13 รายการมูลค่า 300,000 บาท พระเลี่ยมทองคำ 67 รายการประเมินค่าไม่ได้ จี้ทองล้อมเพชรทับทิมหยก 6 รายการมูลค่า 102,000 บาท สร้อยข้อมือทองคำ 10 รายการมูลค่า 150,000 บาท นาฬิกาข้อมือ 1 รายการมูลค่า 120,000 บาท