เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 ก.ย.67 พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม พ.ต.ต.ธวัชชัย ทิพย์วงษ์ สว.สส.สน.เพชรเกษม จ.ส.ต.เอกยุทธ ปล้องคง ผบ.หมู่ (ป.) สน.เพชรเกษม จ.ส.ต.ธวัชชัย ละอองชัย ผบ.หมู่ (สส.) ฯ จ.ส.ต.สมภพ เที่ยงธรรม ผบ.หมู่ (ป.) ฯ ส.ต.อ.ณัฐพงศ์  พรหมสุข ผบ.หมู่ (สส.) ฯ และ ส.ต.อ.ประทานพร เชษขุนทด ผบ.หมู่ (ป.) สน.เพชรเกษม จับกุมนางสาวจินตนา อายุ 42 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ 845/2567 ลงวันที่ 20 ก.ย. 67 ข้อหา “ร่วมกันกันฉ้อโกงโดยการแสดงตัวเป็นบุคคคลอื่นอันเป็นเท็จต่อประชาชนและร่วมกันเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์เท็จฯ” โดยจับกุมได้ที่หน้าห้องเลขที่ 315 ชั้น 10 พรทวีวัฒน์คอนโดทาวน์อาคาร B แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2566 ได้มีบุคคลใช้เฟซบุ๊ก โดยจำชื่อไม่ได้แอดเข้ามาเป็นเพื่อนผู้เสียหายจึงได้กดรับเป็นเพื่อน และต่อมาได้มีการเปลี่ยนมาสนทนาทางแอปฯ ไลน์ โดยใช้ชื่อไลน์ว่า "DR.Soajun" ได้มีการสนทนากันเรื่อยมาจนคนร้ายหลอกว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันฉันสามีภรรยาโดยอ้างว่าทำงานเป็นแพทย์ร่วมกับองค์การสหประชาชาติอยู่ที่ประเทศซูดานใต้ต้องการที่จะพักร้อน แต่ต้องมีการโอนเงินไปยังเจ้าหน้าที่องค์การสหประชาชาติเพื่อเป็นการประกัน จำนวน 50 ปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน เนื่องจากที่ประเทศซูดานใต้อินเตอร์เน็ตใช้การไม่ได้ ขอให้ผู้เสียหายโอนเงินไปให้ให้ก่อนจำนวน 85,000 ดอลล่าสหรัฐ ผู้เสียหายเงินไม่พอจึงขอเงินไปให้จำนวน 80,000 บาท คนร้ายตกลงโดยได้บอกให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชีผู้ต้องหา ที่คนร้ายอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่องค์การสหประชาชาติ 

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.66 เวลา 17.39 น. ได้โอนเงินจำนวน 80,000 บาท โดยเป็นการนำเงินสดไปฝากเข้าบัญชีธนาคารดังกล่าว ที่ธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาเพชรเกษม อเวนิว จากนั้นก็ได้มีการสนทนากันเรื่อยมาคนร้ายได้บอกวาต้องโอนเงินไปเพิ่มจำนวน 53,000 บาท โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีเดิม วันที่ 15 ธ.ค. 66 เวลา 11.41 น. ผู้เสียหายได้โอนเงินจำนวน 53,000 บาท โดยใช้เงินสดโอนเข้าบัญชีดังกล่าว โอนที่ธนาคาร สาขาบิ๊กซีเพชรเกษม 2

จากนั้นคนร้ายอ้างว่ากำลังจะเดินทางกลับเมืองไทยต้องโอนเงินค่าเครื่องบินอีกจำนวน 120,000 บาท แต่ผู้เสียหายไม่โอนให้ จึงเชื่อว่าถูกหลอก ก่อนเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคนร้าย และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องในความผิดฐานฉ้อโกง จากการตรวจสอบพบว่ายังมีคดีอื่นอีก เนื่องจากมีเงินเข้าบัญชีของผู้ต้องหา หลายครั้งรวม เกือบ 2 ล้านบาท กระทั่งเจ้าหน้าที่ติดตามไปจับกุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้

สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยตนเรียนจบจากเมืองนอก และมีแฟนหนุ่มซึ่งเคยถูกหลอกลักษณะนี้ จึงใช้วิธีนี้ไปก่อเหตุหลอกลวงผู้อื่น เมื่อได้เงินมาก็แบ่งให้ตนครั้งละหลักแสนบาท และครั้งนี้ตนก็รับว่าทำเอง โดยนำเงินที่ได้ไปเทรดบิตคอย เบื้องต้นจึงนำถูกตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป