วันที่ 24 ก.ย.67 ที่รัฐสภา นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชนสิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยภายหลังได้รับเลือก ให้ดำรงตำแหน่งประธานกมธ.ว่า ในการเลือกวันนี้ มีการลงคะแนนรับ 2 รอบ ผลปรากฏว่ามีคะแนนเท่ากัน ก่อนที่จะมีการจับฉลาก พร้อมกับยกมือไหว้และกล่าวขอบคุณ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี แคนดิเดตในการเลือกประธานกมธ. ยืนยันว่าหลังจากนี้จะเป็นการทำงานร่วมกัน
โดยนายวีระศักดิ์ ก็ได้ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุน ซึ่งทั้งสองคนไม่ว่าใครจะได้เป็นประธานกรรมาธิการ ก็ไม่ต่างกัน ซึ่งเชื่อว่าสามารถทำงานสนับสนุนส่งเสริมกันได้ และขอบคุณคณะกรรมาธิการทุกคน ส่วนการเริ่มทำงานจะต้องดูสว.ชุดที่แล้ว ทำอะไรไว้บ้าง มีงานค้างหรือไม่ ซึ่งกรรมาธิการชุดนี้เป็นการรวม 2 กรรมการเข้าด้วยกัน คือคณะกรรมการพัฒนาการเมืองกับคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน โดยหลังจากนี้ จะมีการตั้งอนุกรรมการขึ้นมาด้วย ซึ่งเรื่องสิทธิพลเมืองกับสิทธิทางการเมืองไม่สามารถแยกจากกันได้ เช่นเดียวกับสิทธิมนุษยชน ทั้งหมดคือเรื่องเดียวกัน แม้ส่วนตัวจะเห็นว่าควรจะแยกกันก็ตาม
เมื่อถามว่าสว.ชุดเก่าได้มีการตามเรื่องการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอยู่ จะมีการ ตามเรื่องนี้ต่อหรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า งานที่ สว.ชุดที่แล้วทำค้างไว้ และสว.ชุดปัจจุบันมีมติให้ทำต่อ ก็จะดำเนินการตรวจสอบต่อ
ด้านนายวีระศักดิ์ กล่าวถึงการทำงานร่วมกันว่า ส่วนตัวเคารพนับถือนางอังคณา และมั่นใจว่าการทำงานจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และเห็นว่าทุกคนที่เข้ามาทำหน้าที่นี้ จะต้องมีความสมานฉันท์กัน เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อาจจะมีข้อขัดแย้งกันบ้าง แต่ท้ายที่สุดก็จบลงในที่ประชุม
เมื่อถามว่ามีข้อสังเกตว่าการตั้งกรรมาธิการสว. สายสีน้ำเงินกินรวบประธานกรรมาธิการเกือบทุกคณะ นายวีระศักดิ์ ปฏิเสธที่จะพูดถึง เพราะถือว่าเป็นสิทธิ์ของกรรมาธิการแต่ละคณะ
เมื่อถามว่ารายชื่อกมธ. ที่หลายคนมองว่าอาจจะมีสิทธิ์ผิดฝาผิดตัว และอาจจะทำงานไม่มีประสิทธิภาพ นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า สิทธิพลเมืองต้องมาก่อน ขออย่าไปด้วยค่า เพราะทุกคนมีสิทธิ์ตามความสนใจ อย่างเช่นตนเองก็มาอยู่ในคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง มองว่าเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐาน ที่สว. จะดำรงตำแหน่งในคณะกรรมาธิการ
“ที่ผมเข้ามานั่งในกรรมาธิการชุดนี้ว่า ได้แจ้งนางอังคณาไว้แล้ว ตั้งใจเข้ามาทำหน้าที่เพื่อลบรอยราวเล็กๆ ที่มีอยู่ และต้องการให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เกิดความสมานฉันท์ การเข้ามาชิงตำแหน่งประธานไม่รู้ตัวมาก่อน เพราะมีคนเสนอชื่อ และยินดีที่นางอังคณาได้รับตำแหน่ง พร้อมยืนยันสามารถทำงานร่วมกันได้” นายวีระศักดิ์ กล่าว
นางอังคณา กล่าวเสริมว่า เคยพูดคุยกันมาก่อน ว่าไม่ว่าใครก็ตาม เป็นประธาน ก็สามารถทำงานร่วมกันได้ และจะสนับสนุนส่งเสริมซึ่งกันและกัน ส่วนความเห็นต่างเป็นเรื่องปกติ ซึ่งต้องเคารพในเสียงข้างมาก ไม่ละเลยเสียงข้างน้อย ทั้งนี้พร้อมรับข้อเสนอแนะ และข้อห่วงใยจากทุกฝ่าย