หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ยืนหยัดฟันฝ่า ทุกอุปสรรค ทุ่มเท ทำงานรับใช้สังคม นำเสนอความจริง ผลงานก้าวสู่ปีที่ 74 เป็นเครื่องพิสูจน์ ...*...
“ผลงาน” ยังไม่ปรากฏ แต่กลายเป็นว่า “บริวาร” ของ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯคนที่ 23 ในฐานะ “ผู้นำทางจิตวิญญาณ” ของ “พรรคเพื่อไทย” ขยันเปิดแนวรบใหม่ๆกันไม่หยุดหย่อน !! ทั้ง “พิชัย นริพทะพันธุ์” รมว.พาณิชย์ ยิงคำถามผ่านสื่อ “ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ” จบจากที่ไหน ผลสุดท้าย โลกโซเชียล “ถล่มกลับ” ไม่มีชิ้นดี แถมยังไล่ “พิชัย” รีบกลับไปทำงานที่ “กระทรวงพาณิชย์” ดูแลปัญหาราคาสินค้า จะดีกว่า ยังไม่จบแค่นั้น ! เกิดกระแส “#saveผู้ว่าฯแบงค์ชาติ” กันให้กระหึ่มเมือง สวนกลับ “พิชัย” ซึ่งๆหน้า ...*...
ยิ่ง “พิชัย” ออกลูก “โจมตี” ผู้ว่าฯแบงค์ชาติ อย่าง “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” มากเท่าใด ยิ่งทำให้ผู้คนได้เห็นชัดเจนถึงร่องรอย และความพยายามของ “คนเพื่อไทย” ที่ “ขัดใจ” ผู้ว่าฯแบงค์ชาติกันมาตั้งแต่ “รัฐบาลเศรษฐา” แต่งานนี้ คงอึดอัด ขัดใจเป็นที่สุด เพราะการที่จะ “ปลดผู้ว่าฯแบงก์ชาติ” นั้นคงทำได้แค่คิด ...*...
อย่าลืมว่า มีกฎหมายที่วางกรอบเอาไว้ ในพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551 ว่าหาก “รมว.คลัง” จะปลดผู้ว่าฯแบงก์ชาติ ต้องมี “เหตุผล” ในการสั่งปลด คือ “มีความประพฤติเสื่อมเสียอย่างร้ายแรง หรือทุจริตต่อหน้าที่” งานนี้ “รัฐบาลเพื่อไทย” คงต้องทนอึดอัดใจต่อไปอีกหลายเดือน จนกว่า “เศรษฐพุฒิ” จะหมดวาระลงในเดือนก.พ.ปีหน้า 2568 นั่นแหล่ะ .. ...*...
เมื่อวันที่ 20 ก.ย.67 ที่ผ่านมา “เศรษฐพุฒิ” ได้กล่าวตอนหนึ่งในงาน งานสัมมนาวิชาการธนาคารแห่งประเทศไทย ประจำปี 2567 หัวข้อ “หนี้: The Economics of Balancing Today and Tomorrow” ถึงหลักในการทำหน้าที่ของ “แบงก์ชาติ” ซึ่งถือเป็น “ธนาคารกลาง” ของประเทศไทย ว่า “ธนาคารกลางทั่วโลกคล้ายกันคือไม่เพียงต้องการเห็นเศรษฐกิจขยายตัว แต่ต้องเสริมสร้างให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วย ต้องอาศัยเสถียรภาพด้านราคาและระบบการเงินเป็นพื้นฐานสำคัญ ธนาคารกลางจึงถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการดำเนินนโยบายการเงินต้องให้น้ำหนักกับเสถียรภาพในระยะยาว หน้าที่การมองยาวของธนาคารกลาง จึงต้องมาพร้อมกับอิสระในการดำเนินงาน เพื่อให้บรรลุพันธกิจดังกล่าว หลายครั้งการทำหน้าที่ของธนาคารกลาง ต้องดำเนินนโยบายในลักษณะสวนทางกับวัฏจักรเศรษฐกิจ กระทบต่อทุกภาคส่วนเป็นวงกว้าง ย่อมมีทั้งผู้ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ หากธนาคารกลางไม่อิสระเพียงพอ อาจทำให้เสียหลักการของการมองยาวได้” ...*...
มากันที่เรื่องร้อน เรื่องใหม่ ที่ดูเหมือน “พรรคเพื่อไทย” จะต้อง “เดินหน้า” กันให้ได้เพราะฟังเสียงแล้ว ขึงขังกันทุกคน เมื่อ “งานใหม่ งานใหญ่” ของ “ชูศักดิ์ ศิรินิล” รมต.ประจำสำนักฯ เปิดหน้าออกมาแล้วว่า จะลุยแก้รัฐธรรมนูญ รายมาตรา พุ่งเป้าไปที่การกำหนดมาตรฐาน “จริยธรรม” นั้นควรอยู่ตรงไหน เพราะคำๆนี้ ทำเอา “พรรคเพื่อไทย” ปั่นป่วนอย่างที่สุดกันมาแล้ว ...*...
เมื่อครั้งเสีย “เศรษฐา ทวีสิน” หลุดจากเก้าอี้นายกฯคนที่ 30 ไป ก็ด้วย “พิษสง” ของคำว่า “จริยธรรม” แต่รอบนี้ เมื่อ “ลูกสาวนาย” มานั่งเป็น “นายกฯคนที่31” จะให้สุ่มเสี่ยง คงไม่ได้ แต่ “พรรคเพื่อไทย” อย่าลืมว่า เรื่องนี้ถ้าลุยแก้กันเมื่อไหร่ เชื่อขนมกินได้เลย “นักร้อง” จะยื่นสกัดแน่นอน เพราะประการแรก “ความชอบธรรม” ของฝ่ายที่จะยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้ “วางกรอบจริยธรรม” คือพรรคการเมืองผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้เป็น “คนแรก” เสียแล้ว ! ...*...
ที่มา:พันแสง (23/09/67)