วันที่ 23 ก.ย.2567 เวลา 11.30 น.ที่รัฐสภา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่า สว.กลุ่มสีน้ำเงิน ล็อคเก้าอี้ประธานทุกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ว่า วันนี้จะมีการพิจารณาตั้งกมธ.21 คณะ ทั้งนี้บางคณะจะมี สว.แสดงความจำนงเกินกว่าจำนวน 18 คน และสุดท้ายมีการเกลี่ยสว.เข้าไปในกมธ. โดยหลักการในการเกลี่ยนั้น อย่างแรกควรจะดูในกลุ่มอาชีพของสว.ที่เข้ามา แต่ในความเป็นจริงใช้วิธีการโหวต คือให้ผู้ที่สมัครเข้ามาในกมธ.ทำการเลือกกันเองให้ได้เหลือ 18 คน จึงปรากฏได้ สว.ที่ผิดฝาผิดตัว ลงอยู่ในกมธ.ไม่ตรงกับกลุ่มที่เขาเข้ามาอยู่ในสว. เช่น บางท่านอยู่ในกลุ่มท่องเที่ยว เมื่อสมัครเข้าไปอยู่ใน กมธ.การท่องเที่ยวแล้วก็ไม่ได้รับเลือกจากการโหวต และตนก็เป็นผู้รับผลกระทบในการเกลี่ยในครั้งนี้ด้วย
“ ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการเกลี่ยตรงนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งดิฉันสื่อสารทางด้านการเมือง และทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาการเมืองมาโดยตลอด ดิฉันถูกโหวตออกจาก กมธ.พัฒนาการเมือง ฯ ได้คนที่ขายหมูเข้ามาอยู่เข้ามาอยู่ในกมธ.พัฒนาการเมือง ฯ ผลจากการโหวตผู้ที่สมัครเข้ามา ก็ใช้เสียงข้างมากเช่นเดิม ขอฟ้องประชาชนว่าขบวนการที่จะคัดสรรผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งกมธ. ไม่ได้เป็นไปตามฐาน หรือโปรไฟล์กลุ่มของคนที่มาสมัครเป็น สว.แต่มาจาก กระบวนการที่ใช้เสียงข้างมากในการโหวต" น.ส.นันทนา กล่าว
น.ส.นันทนา กล่าวต่อว่า จึงได้คนที่เข้ามาเป็น กมธ.ไม่ตรงกับบทบาทภาระหน้าที่ ยังไม่ต้องพูดถึงประธานที่มีการล็อคตัวไว้เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่สว.ในกลุ่มยังไม่ครบ แต่มีประธานครบทั้ง 21 กลุ่มเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วม และกลุ่มคนที่จะเข้ามาเป็น สว.ก็ไม่ได้แสดงความรู้ ความสามารถให้ตรงกับบทบาทของ กมธ.
ด้านนางกัลยา ใหญ่ประสาน สว.กลุ่มเกษตรกร กล่าวว่า ตนอยากเข้า กมธ.การเกษตรมาก แต่เมื่อเข้าไปในห้องที่มีการคัดเลือก ก็เห็นว่ามันมีการเตรียมการไว้แล้วว่าจะให้ใครเข้าไปอยู่ใน กมธ.นี้ ซึ่ง สว.ที่เห็นสถานการณ์นี้ ได้มีการระบุว่าถ้าจะให้แฟร์ไม่ควรมีการโหวต เพราะรู้ว่าเป็นคนส่วนข้างน้อยยังไงก็แพ้ และอยากให้มีการจับฉลาก ซึ่งเขาก็ให้มีการโหวตว่าจะมีการจับฉลากหรือไม่ ผลปรากฏว่าส่วนข้างน้อย ยกมือกันก็แพ้ และเมื่อมีการโหวตเลือกกันเองก็ไม่ให้มีการแสดงวิสัยทัศน์ หลายคนก็รู้จักแล้วเราจึงถูกคัดออก