เมื่อวันที่ 23 ก.ย.67 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า อนุรา กุมารา ดิสซานายาเก วัย 55 ปี ผู้สมัครจากพรรคพลังประชาชนแห่งชาติ (National People's Power) หรือ NPP นักการเมืองที่มีอุดมการณ์แบบมาร์กซิสต์ ได้ให้คำมั่นว่าจะปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน และจะฟื้นฟูเศรษฐกิจที่เปราะบางของศรีลังกา หลังจากเศรษฐกิจของประเทศเผชิญวิกฤตทางการเงินที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี นอกจากนี้ เขาให้คำมั่นว่าปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของแผนช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีศรีลังกา

คณะกรรมการจัดการเลือกตั้งของศรีลังกาเปิดเผยผลการเลือกตั้ง ว่า ดิสซานายาเก มีคะแนนนำเหนือพรรคการเมืองอื่นๆ ตั้งแต่ช่วงแรกของการนับคะแนนไปจนถึงช่วงสุดท้ายของการนับคะแนน โดยเขาสามารถโค่นเอาชนะรานิล วิกรมสิงเห ประธานาธิบดีคนปัจจุบันได้สำเร็จ

หลังจากรู้ผลการนับคะแนนแล้ว ดิสซานายาเกได้โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) ว่า "สายตาของประชาชนหลายล้านคนเต็มไปด้วยความหวัง พวกเขาคาดหวังว่าเราจะรุดหน้าไปด้วยกัน และขณะนี้เราพร้อมแล้วที่จะเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของศรีลังกา ความฝันนี้จะกลายเป็นจริงได้ก็ด้วยการเริ่มต้นใหม่เท่านั้น ความสามัคคีของชาวสิงหล ชาวทมิฬ ชาวมุสลิม และชาวศรีลังกาทั้งหมด ถือเป็นรากฐานของการเริ่มต้นใหม่ในครั้งนี้"

การเลือกตั้งประธานาธิบดีศรีลังกาซึ่งเปิดฉากขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (21 ก.ย.) นั้น เป็นการเลือกตั้งครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2565 จนนำสู่การประท้วงทั่วประเทศและบีบให้ผู้นำต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ โดยในเวลานั้น รัฐสภาศรีลังกาได้ลงมติแต่งตั้ง รานิล วิกรมสิงเห ให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เพื่อแทนที่อดีตประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา ที่ลี้ภัยไปต่างประเทศหลังจากศรีลังกาผิดนัดชำระหนี้ โดยรานิล วิกรมสิงเห ได้ลงเลือกตั้งประธานาธิบดีในครั้งนี้ด้วย แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับดิสซานายาเก

 

#ศรีลังกา #ข่าวต่างประเทศ