จากผลนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ปรากฎว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัคร นายก อบจ.ปทุมธานี หมายเลข 3 มีคะแนนนำนายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครนายก อบจ.ปทุมธานี หมายเลข 1 กว่า ุ60,000 คะแนน และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้ออกมาแถลงประกาศชัยชนะ และขอบคุณประชาชนที่สนับสนุนในการเลือกตั้งนั้น
ล่าสุด วันที่ 22 ก.ย.67 นายชาญ พวงเพ็ชร์ ได้ออกมาขอบคุณพี่น้องประชาชนและทีมงานว่า วันนี้ตนเองภาคภูมิใจในคะแนนแสนกว่าคะแนนที่ประชาชนมอบให้ โดยวันนี้มีพี่ๆ น้องๆ มาให้กำลังใจกันเยอะมาก วันนี้เราชนะไม่ได้ก็ต้องยอมเพราะคะแนนต่ำกว่าเขา แต่ก็จะทำงานเพื่อคนปทุมธานีต่อไป จะทุกข์หรือสุข สโลแกนลุงชาญก็บอกแล้วว่าคนปทุมฯไม่ทิ้งกัน ถ้าพี่น้องชาวปทุมธานีมีอะไรให้ลุงชาญรับใช้ ก็เหมือนเดิมนะครับ ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียง
การเลือกตั้งในครั้งนี้ก็เหมือนที่บอกไปในตอนเช้าว่า เป็นห่วงคนจะมาลงคะแนนน้อย และเบื่อการเมืองของปทุมธานี และฝนตกด้วย แต่สิ่งที่สำคัญจริงแล้วตนออกไปหาเสียงตนรู้คนเบื่อการเมืองมากกว่า เพราะเลือกแล้วเลือกอีก มันไม่จบปทุมธานี เที่ยวนี้คงจะจบมั้ง แต่ก็ไม่รู้นะมันแล้วแต่บุญวาสนาของแต่ละคน เราเป็นนักการเมืองมานาน ก็ต้องขอบคุณคนปทุมธานี อีกครั้ง การเมืองไม่มีใครสามารถตอบล่วงหน้ได้ว่าจะแพ้หรือชนะ มันเป็นเกมกีฬา ในวันนี้เราคะแนนน้อยกว่า เราก็ต้องยอมรับแบบลูกผู้ชาย ทีมงานที่ทำงานด้วยกันมาโดยตลอดเป็นกำลังสำคัญของลุงชาญ
ส่วนการเลือกตั้งในครั้งนี้เรืองตนเองไม่ติดโลโก้พรรคเพื่อไทย ก็ไม่ได้มีอะไร ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย และวันนี้สส.พรรคเพื่อไทยที่มีคนเดียวก็เดินทางมา ยังอยู่เหมือนเดิม ที่เราได้ใบเหลืองมันมีอุปสรรคทางการเมืองหลายด้าน เราก็เกรงใจผู้หลักผู้ใหญ่ เราก็ใช้สโลแกนของเรากลุ่มปทุมรักไทย ก็ไม่ได้เสียหายกับพรรคและก็คนปทุมธานี และลุงชาญด้วย ที่เราไปแจกบัตรที่ได้ใบเหลืองมันกระทบกับพรรคเขากระทบกับท่านอดีตนายกทักษิณ และท่านนายกอุ๊งอิ๊ง นายกปัจจุบัน ในการลงครั้งนี้เลยใช้กลุ่มปทุมรักไทย และคนปทุมไม่ทิ้งกัน ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนอีกครั้งจากใจลุงชาญ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อเวลา 19.31 น. จากทั้ง 7 อำเภอของ จ.ปทุมธานี พบว่า หมายเลข 1 นายชาญ พวงเพ็ชร์ ได้ 110,713 คะแนน หมายเลข 2 นายอธิวัฒน์ สอนเนย ได้ 6,754 คะแนนหมายเลข 3 พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ได้ 168,986 คะแนน หมายเลข 4 นายนพดล ลัดดาแย้ม ได้ 8,981 คะแนน การเลือกตั้งครั้งนี้ คาดการณ์ว่ามีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ประมาณ 35-40% ของผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด