วันที่ 22 ก.ย.67  ที่ บช.ทท. พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท.เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลและนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว. ท่องเที่ยวและกีฬาฯ  ให้ปราบปราม การ กระทำความผิดที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและดูแลอำนวยความสะดวกในด้านความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวในช่วง High Season นั้น ภายใต้การอำนวยการของ นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว ได้บูรณาการระหว่าง กก.สืบสวน บช.ทท. , กก.1 บก.ทท.1 , กรมการท่องเที่ยว พร้อมกับสมาคมมัคคุเทศก์ภาษาอินโดนีเซีย ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ เรื่องร้องเรียนว่ามีการแอบลักลอบทำทัวร์เถื่อนชาวอินโดนีเชีย โดยนำนักท่องเที่ยวชาวอินโดนีเซีย จำนวน 133 คน เข้ามาท่องเที่ยวภายในประเทศไทยระหว่างวันที่ 19 - 22 ก.ย.67 โดยไม่ผ่านบริษัทนำเที่ยวที่จดทะเบียนประกอบธุรกิจนำเที่ยวที่ถูกต้องตามกฎหมาย  


จากการลงพื้นที่สืบสวนการกระทำความผิดในเรื่องดังกล่าวปรากฎพบข้อมูลและพยานหลักฐานที่เพียงพอว่ามีการประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน (ทัวร์เถื่อน) ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาต (ไกด์เถื่อน) และ เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน (ต่างด้าวทำงาน)  ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่สืบสวนต่อเนื่อง พบ น.ส.สิวาลี (ขอสงวนชื่อและนามสกุลจริง )ชาวอินโดนีเซีย บุคคลตามเป้าหมาย กำลังปฎิบัติหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์ โดยให้บริการและนำนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวอยู่  จึงได้แสดงตัว เข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นการนำเที่ยวโดยไม่ได้ผ่านผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวที่มีใบอนุญาตจากกรมการท่องเที่ยวแต่อย่างใด จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาความผิดฐานประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาตและ ปฎิบัติหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่ง สน.พระราชวังเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย 

ในการนี้ การจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ได้ประสานเจ้าหน้าที่ล่ามแปลจากชมรมมัคคุเทศก์ภาษาอินโดนีเซีย และเจ้าหน้าที่สายตรวจตำรวจท่องเที่ยว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว โดยไม่ให้กระทบกับโปรแกรมการท่องเที่ยวเพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยในช่วง High Season นี้