กอ.รมน.ภาค 4 สน. รายงานเจ้าหน้าที่เข้าบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา เบื้องต้นควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 2 ราย
 

วันนี้ (21 กันยายน 2567) เวลา 05.00 น. หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดยะลา ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ อำเภอยะหา จังหวัดยะลา หลังได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนว่าพบเห็นบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวหลบซ่อนพักพิงในพื้นที่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุสร้างสถาการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดยะลา มาแล้วหลายคดีในห้วงที่ผ่านมา ประกอบด้วย เหตุคนร้ายลอบวางระเบิดริมถนนในพื้นที่บ้านบาโง หมู่ที่ 6 ตำบลปะแต อำเภอยะหา เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2566, เหตุคนร้ายปล้นอาวุธปืนบ้านอดีตผู้ใหญ่บ้าน พื้นที่บ้านบาโง หมูที่ 6 ตำบลปะแต อำเภอยะหา เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567 และเหตุคนร้ายปล้นอาวุธปืนชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ในพื้นที่ อำเภอยะหา, อำเภอกรงปินัง และอำเภอเมือง จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 โดยเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการเข้าตรวจสอบ ณ บ้านหลังหนึ่ง หมู่ที่ 4 ตำบลปะแต อำเภอยะหา จังหวัดยะลา พบผู้ต้องสงสัย จำนวน 1 ราย คือ นายฟาดิล (สงวนนามสกุล)

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพิ่มเติมที่พักชั่วคราว บริเวณกุโปร์ดารุลนาฮิม หมู่ที่ 4 ตำบลปะแต อำเภอยะหา จังหวัดยะลา พบผู้ต้องสงสัย 1 ราย คือ นายมะรอมลี (สงวนนามสกุล)สำหรับในขั้นตอนการปฏิบัติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่พูดคุยและสร้างความเข้าใจแก่ครอบครัวและญาติของผู้สงสัยให้ทราบถึงขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งให้ปฏิบัติด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนให้มากที่สุด ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 ราย ไปยังศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 เพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถามและขยายผลต่อไป     
 

 

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ