บึงกาฬ คืบหน้า นร.ชั้น ม.4 ยิงรุ่นน้อง ม.2 ดับ ความฝัน อยากติดฟุตบอลทีมชาติ จบ ม.3 แม่จะส่งเข้าเรียน ร.ร.กีฬา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่างของ ด.ช.ศรัทธา อายุ 14 ปี นร.ชั้น ม.2 ในพื้นที่ อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ ร.ต.อ.ธีรวิสิฎฐ์ จินจันดา รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากคาด ได้ถูกพนักงานสอบสวนส่งไปยังแผนกนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น เพื่อผ่าเอาหัวกระสุนออกมาพิสูจน์และประกอบสำนวนสอบสวน ส่วนการสอบสวนนั้นเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว จึงส่งตัว นายอภิรักษ์ อายุ 15 ปี นร.ชัน ม.4 ผู้ต้องหาใช้ปืนปากกา ยิง นร.ม.2 รุ่นน้องไปฝากขังที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กจังหวัดบึงกาฬ เพื่อรอดำเนินการในขั้นตอนต่อไป โดยผู้ต้องหาได้รับสารภาพตลอดข้อหาคือ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนที่ใช้ดินระเบิดในเมืองหมู่บ้าน และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 


ส่วนบรรยากาศในงานศพมีญาติพี่น้องและแขกได้มาร่วมแสดงความเสียใจกับผู้ปกครองที่สูญเสียบุตรชายอันเป็นที่รักไปอย่างกะทันหันในครั้งนี้ โดยเจ้าภาพได้ตั้งโต๊ะเต็นท์ไว้รองรับแขกเหรื่อที่มาในงานท่ามกลางฝนตกปรอยๆ 
 
โดยนางวนิดา อายุ 42 ปี มารดาน้อง ม.2 ที่เคราะห์ร้ายกล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่ลูกชายจากไปอย่างกะทันหันปกติลูกชายเป็นคนนิสัยดี มีนิสัยอ่อนโยนไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร ชอบเล่นกีฬาฟุตบอล ตอนเย็นหลังเลิกเรียนจากโรงเรียนมัธยมก็จะไปเตะบอลกับเพื่อนๆ รุ่นน้องที่โรงเรียนประถมประจำในหมู่บ้าน จนผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยก้านเหลือง ก็ยังชื่นชมที่ลูกชายเป็นคนใฝ่เรียนรู้ในกีฬาฟุตบอล พร้อมกับสอนนักเรียนรุ่นน้องในโรงเรียนประถมให้ด้วย พร้อมกับสอนการเล่นฟุตบอลให้รุ่นน้องอย่างเป็นกันเอง ไม่เคยดุด่าหรือพูดคำหยาบทำให้รุ่นน้องชอบใจและเล่นด้วย ซึ่งผอ.โรงเรียนประถมก็ยังชื่นชมเห็นเด็กนักเรียนรุ่นพี่ สอนการเล่นฟุตบอลให้รุ่นน้อง น้องฝันเรียนจบจากปากคาด อยากไปเรียนต่ออยู่โรงเรียนกีฬา ซึ่งแม่ก็ส่งเสริมอยากให้ลูกประสบผลสำเร็จได้ติดถึงทีมชาติด้วย ยังพูดกับลูกว่าถ้าหากไปโรงเรียนกีฬาแล้วไม่ติดทีมชาติดังตั้งใจก็ขอให้กลับมาเรียนครูพละให้แม่นะ ผู้ตายก็รับปากตามที่ขอ ส่วนเวลาไปโรงเรียนนั้นก็จะถามแม่ก่อนว่ามีเงินมากไหม แม่ก็จะให้เงินไปโรงเรียน 50 บาทบ้าง 60 บาทบ้าง แต่ไม่ถึง 100 บาทสักที นี่คือความเป็นห่วงแม่ ลูกชายชอบเล่นเกมส์จนดึกจึงนอนตื่นสาย แม่ต้องคอยปลุกให้ตื่นแล้วขับรถพาไปส่งโรงเรียน ขากลับจะนั่งรถเหมารายเดือนกลับเอง 
    

ส่วนช่วงเช้าได้มีเจ้าหน้าที่จากศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.)ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อเข้าพบกับนางวนิดา อายุ 42 ปีและญาติๆ ที่บ้านพักจัดงานพิธีสวดอภิธรรมศพน้อง ม.2 ผู้เสียชีวิต เพื่อเยี่ยมเยียนแสดงความเสียใจด้วย และแจ้งสิทธิ์ในการจะได้รับความช่วยหลือเยียวยาชดเชยความสูญเสียในครั้ง  

ทางด้านนางกษมา ป้องกัน ผอ.สพม.บึงกาฬ มอบหมายให้นายอดิศร ถวิลคำ รอง ผอ.สพม.บึงกาฬ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา และนักจิตวิทยาโรงเรียนฯ ลงพื้นที่ให้กำลังใจ แสดงความเสียใจ และมอบเงินช่วยเหลือจาก “กองทุนความเลื่อมล้ำทางการศึกษา” สพม.บึงกาฬเพื่อช่วยเหลือครอบครัวนักเรียนผู้ที่เสียชีวิต เป็นเงินจำนวน 3,000.- บาท