วันที่ 20 ก.ย.67 พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. สั่งการ พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ. สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จับกุม นายกิตติกร อายุ 36 ปี พร้อมของกลางยา, เวชภัณฑ์, เครื่องมือแพทย์ และอุปกรณ์ในการผ่าตัด รวม 22 รายการ ได้ที่ทาวเฮาว์ 2 ชั้น ในพื้นที่ ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร 

พ.ต.อ.วีระพงษ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนว่า นายกิตติกร ลักลอบให้บริการผ่าตัดฝังมุก เสริมซิลิโคน และฉีดฟิลเลอร์อวัยวะเพศชายให้ประชาชนทั่วไปผ่านเฟซบุ๊กชื่อ “ไม้เลื้อย โมดิฟายดิ์” ซึ่งมีผู้เสียหายรายหนึ่งรับการฉีดซิลิโคนเพิ่มขนาดอวัยวะเพศ จนเกิดการอักเสบและติดเชื้ออย่างรุนแรง แม้หลังจากรับการรักษาแล้ว ยังมีอาการเจ็บปวดทรมาน อวัยวะเพศไม่แข็งตัว และไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้อีกเลย ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ส่งสายลับติดต่อใช้บริการเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชาย และฝังมุกโดยใช้บ้านพักเป็นสถานที่ในการนัดหมาย ก่อนแสดงตัวจับกุมได้พร้อมของกลางดังกล่าว 

สอบสวน นายกิตติกร รับสารภาพว่า ตนไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ และไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่อย่างใด โดยบ้านหลังดังกล่าวดัดแปลงชั้น 2 ของบ้าน เป็นสถานที่ทำการรับผ่าตัด หรือฉีดเพิ่มขนาด โดยไม่มีเตียง และเครื่องมือแพทย์ที่ถูกสุขอนามัยแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามตนเรียนจบแค่ชั้น ม.3 จากจังหวัดพังงา ต่อมาได้เรียนวิชาฝังมุกและเริ่มทำครั้งแรกตอนอายุ 14 ปี และทำมาตลอดรวม ๆ แล้ว ประมาณ 20 ปี คิดค่าบริการครั้งละ 5,000-20,000 บาท มีลูกค้าเดือนละ 2-3 ราย เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ดำเนินกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียน และรับอนุญาต” ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.วิทยา กล่าวฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนว่า การฝังมุกหรือฉีดฟิลเลอร์เพื่อเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชายเป็นรสนิยมทางเพศส่วนตัวในแต่ละบุคคล ไม่ได้มีประโยชน์ต่อสุขภาพในแง่ทางการแพทย์แต่อย่างใด การผ่าตัดเพื่อใส่สิ่งแปลกปลอมเข้าไปในอวัยวะเพศอาจทำให้เสี่ยงต่อการอักเสบจนถึงขั้นติดเชื้อและอาจส่งผลร้ายให้อวัยวะเพศใช้การไม่ได้ และแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่สวมรอยเป็นหมอ หมอเถื่อน หรือคลินิกเถื่อน ให้หยุดพฤติการณ์ดังกล่าวทันที เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการจับกุมอย่างต่อเนื่อง หากตรวจพบจะดำเนินคดีโดยเด็ดขาด พี่น้องประชาชนสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน บก.ปคบ.1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค