บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S และบริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR จัดงานสัมมนาพัฒนาศักยภาพคู่ค้าธุรกิจ S - Together 2024 ภายใต้หัวข้อ “Green Together – Growth Together สร้างห่วงโซ่ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน” จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จุดประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่คู่ค้าธุรกิจ สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Procurement) ที่เป็นไปตามหลักการคัดเลือกสินค้าและบริการตามแนวทาง ESG ของบริษัทฯ เพื่อมุ่งสร้างเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่ง และก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ร่วมกันในปี 2030 โดยภายในงานได้รับการตอบรับจากคู่ค้ากว่า 50 องค์กร กว่า 100 ท่าน เข้าร่วม ณ ห้องประชุม PRIDE ชั้น 39 อาคาร ซันทาวเวอร์ส บี

คุณฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ประธานเปิดงาน กล่าวว่า “สิงห์ เอสเตท มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วยความยั่งยืนมาโดยตลอด ผ่านวิสัยทัศน์ที่ว่า ‘Entrusted and Value Enricher’ เพื่อมุ่งสร้างคุณค่าและการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยงานสัมมนาคู่ค้าธุรกิจในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อ มุ่งหวังให้คู่ค้าตระหนักและเตรียมความพร้อมในการลดคาร์บอน เพราะเราให้ความสำคัญในการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพิ่มการใช้พลังงานสะอาด ลดของเสีย และบริหารจัดการพลังงานและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพให้กับทุกธุรกิจที่เราดำเนินการอยู่ เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา แต่การจะบรรลุเป้าหมายได้นั้น เราต้องมีเครือข่ายธุรกิจที่มั่นคงและแข็งแรง เพราะคู่ค้าธุรกิจเป็นหนึ่งในห่วงโซ่คุณค่าและเป็นพาร์ทเนอร์ที่สำคัญของเราในการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกัน รวมถึงมีการทบทวนนโยบายการจัดซื้อจ้าง โดยเพิ่มหลักเกณฑ์การจัดซื้อที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ Green Procurement ซึ่งจะกลายเป็นหนึ่งในหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกสินค้าและบริการของเรานับจากนี้”

คุณอิศรินทร์ ภัทรมัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการดำเนินงานของ SHR ไว้ว่า “ในส่วนของธุรกิจโรงแรม เรามุ่งเน้นความสมดุลในการอยู่ร่วมกันของ ‘สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม’ คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ให้ได้มีส่วนร่วมและเข้ามาเป็นเครือข่ายห่วงโซ่ธุรกิจ Sustainable Procurement หรือการจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืน ตั้งแต่การสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากชุมชนและนำมาต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่ม อย่างเมนูอาหารท้องถิ่น รวมถึงการนำผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นมาจำหน่ายเป็นของที่ระลึก มากไปกว่านั้นเรายังจัดหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ เพื่อลดผลกระทบจากกิจกรรมต่างๆ ของโรงแรม และความปลอดภัยต่อผู้เข้าพัก จากการเลือกสรรอย่างพิถีพิถันของเรา การคัดเลือกคู่ค้าธุรกิจที่สามารถส่งมอบสินค้าหรือบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่เรามองหา เพื่อสร้างระบบนิเวศให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน ซึ่งนอกจากจะมาร่วมเป็นหนึ่งแรงสนับสนุนในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะของชุมชนแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งแรงส่งสำคัญในการส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวที่น่าประทับใจแก่ลูกค้าของเราอีกด้วย”

​​​​​​​

โดยงานสัมมนาในครั้งนี้ สิงห์ เอสเตท ได้เชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนระดับประเทศ ได้แก่ ผศ.ดร.ธรณ์ ธํารงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษ คณะประมงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ ศ.ดร.พิสุทธิ์ เพียรมนกุล รองคณบดีด้านความยั่งยืนและการมีส่วนร่วมของสังคม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มาร่วมสัมมนาย่อยในหัวข้อ “Green Together – Growth Together” ก้าวสู่องค์กรความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2030 และ Net Zero ในปี 2050 การรับมือการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของโลกและสิ่งแวดล้อม และปรับเปลี่ยนธุรกิจให้ก้าวไปพร้อมกับการดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตของธุรกิจและสังคมอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน ภายในงานได้รับเกียรติจาก ดร.ธารทิพย์ พันธ์เมธาฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เก็ท โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วย คุณเข้ม คำวงศ์ปิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการออกแบบและก่อสร้าง และคุณจักรปาณี โสธรนพบุตร รองผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายจัดซื้อองค์กร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมสัมมนาในหัวข้อ “Strive for decarbonize, Let’s achieve together” เผยแนวทางที่เกี่ยวข้องกับระบบการรับรองการปล่อยและดูดกลับก๊าซเรือนกระจกของบริษัทคู่ค้า เพื่อให้เข้าใจและควบคุมผลกระทบจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน พร้อมนำพาธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ก้าวสู่สังคม Net Zero อย่างยั่งยืนไปด้วยกัน

“ท่ามกลางความท้าทายที่หลากหลาย ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ประเด็นทางสังคม และสิ่งแวดล้อมที่ล้วนส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของเรานั้น หากมีมาตรการหรือแนวทางการรับมือที่เหมาะสม จะทำให้สามารถเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของโลกได้ด้วยการปรับกลยุทธ์ตามแผนที่วางไว้ ทั้งนี้ในความท้าทายเหล่านั้น ความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับคู่ค้านับเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ ซึ่งสิงห์ เอสเตท หวังเป็นอย่างยิ่งว่างานสัมมนาในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับกิจการของคู่ค้า รวมถึงการสร้างเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่งและก้าวไปด้วยกันอย่างมั่นคง” คุณฐิติมา กล่าวทิ้งท้าย