สยามรัฐ ยึดมั่นอุดมการณ์ปกป้องเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ยืนหยัดรับใช้สังคมด้วยจิตสำนึกแห่งความรับผิดชอบ …*…

บันทึกไว้เป็นหมายเหตุการเมืองไทยพ.ศ. 2567 ที่หันมาใช้ “กฎหมาย”เป็นเครื่องมือหลักในการล้มล้างรัฐบาล แทนที่จะมุ่งฟาดฟันกันด้วยการอภิปรายเปิดแผลในสภา หรือปลุกม็อบลงท้องถนนเหมือนเช่นที่ผ่านมา …*…

นับแต่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถูกกล่าวหาฟ้องร้องสารพัดต่อองค์กรอิสระนับสิบเรื่อง แค่ชูมือทำมินิฮาร์ท ยังถูกเล่นงาน …*…

กระนั้น ก็มีบางประเด็นที่อาจทำให้น.ส.แพทองธารตกเก้าอี้ซ้ำรอยนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯเช่นกัน โดยเฉพาะคำร้องต่อ กกต.ของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นักร้องแห่งบ้านป่าฯ เพื่อขอให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรี  กรณีเสนอชื่อนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นั้น จะเข้าข่ายมีความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) หรือไม่ และการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ข้อ 8 หรือไม่ และเข้าข่ายเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (4) ประกอบมาตรา 160 (4) (5) หรือไม่ …*…

 ในคำร้องดังกล่าวของนายเรืองไกรได้อ้างถึงคำพิพากษาศาลจังหวัดกาญจนบุรี ในคดีหมายเลขแดงที่ อ1141/2565 ที่มีความตอนหนึ่งว่า “พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 65 (1), 126 จำคุก 2 ปี และปรับ 40,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี และปรับ 20,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษให้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 จ่ายสินบนนำจับอีกกึ่งหนึ่งของค่าปรับแก่ผู้แจ้งความนำจับ ริบธนบัตรรัฐบาลไทย จำนวน 1,500 บาท เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจำเลยมีกำหนด 20 ปี” …*…

โดยนายเรืองไกรระบุว่าในคดีนี้ที่จำเลยให้การรับสารภาพนั้น ปรากฏข้อเท็จจริงตามคำฟ้องโจทก์ที่เกี่ยวข้องกับนายนายสุรพงษ์ด้วยว่า “ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2563 เวลากลางวัน หลังจากมีประกาศให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรีและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ก่อนถึงวันที่กำหนดเลือกตั้งตามประกาศผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี จำเลยได้ให้ทรัพย์สินเป็นเงินสดคนละ 500 บาท แก่ ... จำนวน 3 คน รวม 1,500 บาท ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี และเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี เขตเลือกตั้งที่ 5 ตำบลหนองบัว อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งสามคนดังกล่าวให้ลงคะแนนเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ให้แก่นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ ที่เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี หมายเลข 3” …*…

นักร้องแห่งบ้านป่าฯชี้ว่าหากนำแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 21/2567 ในส่วนที่วินิจฉัยว่า “...การพิจารณาว่าบุคคลใดมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) ... เป็นดุลพินิจของนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นผู้พิจารณาในฐานะผู้รับผิดชอบ...” จึงเป็นความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีที่จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาดังกล่าวด้วย ดังนั้น จึงเหตุอันควรขอให้ กกต. ตรวจสอบว่า นายกรัฐมนตรีจะมีเหตุสิ้นสุดลงเฉพาะตัวจากการใช้ดุลพินิจเสนอชื่อนายสุรพงษ์ เป็นรมช.คมนาคม หรือไม่ เพราะมาตรฐานทางจริยธรรม ข้อ 8 กำหนดว่า “ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ เพื่อตนเอง หรือผู้อื่น หรือมีพฤติการณ์ที่รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ” …*…

 ขณะที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มือกฎหมายรัฐบาลมองว่าเป็นคำร้องที่ไร้สาระ พร้อมยืนยันว่านายสุรพงษ์ไม่เคยต้องคำพิพากษาใดๆ มาก่อน ตั้งแต่ช่วงการดำรงตำแหน่งนายกฯอบจ.กาญจบุรี จนถึงปี 2566 ไม่เคยมีคำพิพากษาว่าทำผิด ดังนั้นการร้องดังกล่าวให้เข้าใจว่าเป็นข้อบกพร่องของการตั้งรัฐมนตรีและทำให้นายสุรพงษ์เสียหาย โดยนายสุรพงษ์กำลังคิดดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้ร้องในข้อหาหมิ่นประมาท …*…

ก็ต้องลุ้นกันต่อไปว่ามุมมองในเรื่องนี้ของ กกต.จะเป็นเช่นใด หากโน้มเอียงไปทางนายเรืองไกร และนำไปสู่การขอคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ ก็จะทำให้สถานการณ์การเมืองตกอยู่ในความไม่แน่นอนอีกครั้ง รัฐบาลน.ส.แพทองธารอาจถึงจุดจบเร็วกว่าที่คาดกันไว้ก็เป็นได้ …*…

ที่มา:เจ้าพระยา (19/9/67)