เป็นข่าวมานานแล้ว สำหรับ "จอห์น เท็กซ์เตอร์" นักธุรกิจชาวอเมริกัน ที่กำลังเร่งดำเนินการขายหุ้นของสโมสร "คริสตัล พาเลซ" ทีมดังในศึกพรีเมียร์ลีก ประเทศอังกฤษ เพื่อพุ่งเป้าเทกโอเวอร์สโมสร "เอฟเวอร์ตัน" ทีมร่วมลีก ให้ได้โดยเร็วที่สุด
มีรายงานแจ้งว่า "เท็กซ์เตอร์" กำลังเข้าสู่ช่วงสำคัญของการเจรจาเพื่อเทกโอเวอร์สโมสรเอฟเวอร์ตัน ต่อจาก "ฟาร์ฮัด โมชิรี" เจ้าของคนปัจจุบัน ทำให้นักธุรกิจชาวอเมริกันรายนี้ จะต้องรีบเคลียร์ตัวเองด้วยการเทขายหุ้นของสโมสรคริสตัล พาเลซ
ปัจจุบัน "เท็กซ์เตอร์" คือผู้ถือหุ้นมากที่สุดของสโมสร "คริสตัล พาเลซ" คิดเป็นจำนวน 45 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจึงมอบหมายให้ "เรนกรุ๊ป" ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์เข้ามาดูแลกระบวนการขายหุ้นทั้งหมด เพื่อที่จะได้เร่งดำเนินการในการซื้อหุ้นสโมสรเอฟเวอร์ตัน ต่อไป ซึ่งต้องใช้เวลากว่าที่พรีเมียร์ลีกจะให้การรับรอง
ที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่า "เท็กซ์เตอร์" ได้แจ้งให้ทุกฝ่ายได้รับทราบแล้วถึงความปรารถนาที่จะเร่งดำเนินการขายหุ้นที่มีทั้งหมดในสโมสรคริสตัล พาเลซ เพราะตอนนี้มีความคืบหน้าไปมากในการเจรจากับ โมชิรี เรื่องการเทกโอเวอร์สโมสรเอฟเวอร์ตัน
อย่างไรก็ตาม สื่อในประเทศอังกฤษ รายงานว่า เท็กซ์เตอร์ มีความมั่นใจมากทีเดียวว่าจะประสบความสำเร็จในการยื่นข้อเสนอ 600 ล้านปอนด์ เพื่อซื้อหุ้นจาก โมชิรี่ กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ เอฟเวอร์ตัน และนำสโมสรเข้าสู่ อีเกิ้ล ฟุตบอล กรุ๊ป บริษัทที่อยู่ในความดูแล
ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงปลายปี 2023 เอฟเวอร์ตัน ถูกพรีเมียร์ลีกลงโทษตัด 10 แต้มทันที หลังจากพบว่าละเมิดกฎการทำกำไรและความยั่งยืนของลีก โดยการตรวจสอบเรื่องของความผิดปกติทางการเงินของเอฟเวอร์ตันเกิดขึ้นเมื่อบรรดาทีมที่ตกชั้นสู่ลีกแชมเปียนชิพฤดูกาลก่อนอย่างเลสเตอร์ ซิตี้, ลีดส์ ยูไนเต็ด, เซาแธมป์ตัน รวมถึงเบิร์นลีย์ (ที่ตกชั้นในฤดูกาล 2021/22) ได้ยื่นฟ้องสโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน โดยกล่าวหาว่าเอฟเวอร์ตันกระทำผิดต่อกฎ Financial Fair Play ของพรีเมียร์ลีก เนื่องจากมีการรายงานการขาดทุนถึง 371 ล้านปอนด์ ซึ่งมากกว่าจำนวนที่กำหนดคือ 105 ล้านปอนด์
ทางด้านสโมสรเอฟเวอร์ตันได้ออกแถลงการณ์ว่า สโมสรรู้สึกทั้งตกใจและผิดหวังจากคำตัดสินที่ไม่สมเหตุสมผลและไม่ยุติธรรม โดยหลังจากนี้ทางสโมสรจะยื่นเรื่องขออุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว
สำหรับการหักแต้มดังกล่าวถือเป็นการลงโทษตัดแต้มที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก ส่งผลให้สถานการณ์บนตารางคะแนนปัจจุบันของทัพทอฟฟี่สีน้ำเงินต้องหล่นลงมาอยู่อันดับที่ 19 ของตาราง มีคะแนนรวมเหลือเพียง 4 แต้มเท่านั้นหลังแข่งขันไป 12 นัด
สำหรับ สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน เป็นสโมสรฟุตบอลที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นในปี 1878 โดยใช้ชื่อว่า เซนต์โดมิงโก เอฟซี ตามชื่อโบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองลิเวอร์พูล และเปลี่ยนชื่อเป็น เอฟเวอร์ตัน เอฟซี ในปี 1884 และใช้สนามแอนฟิลด์ โรด เป็นสนามเหย้า โดยมี จอห์น โฮลดิง ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองลิเวอร์พูลและสมาชิกสภาผู้แทนพรรคอนุรักษ์นิยม เป็นประธานสโมสร
เอฟเวอร์ตัน คว้าแชมป์แรกได้ในฤดูกาล 1890-1891 ซึ่งในปีนั้น "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" มีชุดทีมเป็นเสื้อสีชมพูอ่อน กางเกงสีฟ้า ถุงเท้าสีฟ้า และต่อมากลุ่มแฟนบอล เอฟเวอร์ตัน ได้เรียกร้องให้ใช้เสื้อสีน้ำเงิน กางเกงสีขาว ถุงเท้าสีขาว เป็นชุดประจำสโมสรมาจนถึงปัจจุบัน
เมื่อวันที่ 15 มี.ค.1892 ผู้บริหารสโมสรได้ตัดสินใจปลด จอห์น โฮลดิง ออกจากตำแหน่งและได้ย้ายทีมเอฟเวอร์ตันไปยังฝั่งตะวันตกของ สแตนลีย์ ปาร์ค ซึ่งในสมัยนั้นเรียกพื้นที่บริเวณนั้นว่า กรีน เมอร์ ต่อมาสนามแห่งนั้นถูกเรียกชื่อตามถนน เป็น กูดิสัน ปาร์ค จนถึงปัจจุบัน
ในฤดูกาล 1893-1894 แจ็ค เซาธ์เวิร์ธ เป็นดาวยิงสูงสุดของลีกอังกฤษ ด้วยจำนวน 27 ประตู ซึ่งอดีตนักเตะ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ รายนี้ถือเป็นดาวซัลโวสูงสุดรายแรกของเอฟเวอร์ตัน
ฤดูกาล 1927-1928 (หลังสงครามโลกครั้งที่ 1)เอฟเวอร์ตัน ได้สร้างสถิติที่ไม่มีใครลบได้จนถึงปัจจุบัน เมื่อ ดิ๊กซี่ ดีน กองหน้าชาวอังกฤษ ผลิตสกอร์ให้กับสโมสรได้ถึง 60 ประตูในหนึ่งฤดูกาล และเป็นสถิติการทำประตูในหนึ่งฤดูกาลที่มากที่สุดในลีกอังกฤษ
เอฟเวอร์ตัน เริ่มต้นยุคใหม่ในปี 1961 (หลังสงครามโลกครั้งที่ 2)เมื่อได้จอห์น มัวส์ มหาเศรษฐีชาวเมืองลิเวอร์พูล ที่เป็นเจ้าของกิจการลิต เติลวูด พูล และ ธุรกิจการส่งของทางอากาศ เป็นประธานสโมสร โดยมี แฮร์รี แคทเทอร์ริค เป็นผู้จัดการทีม ซึ่ง เอฟเวอร์ตัน ยุคนั้นมี โฮเวิร์ด เคนดัลล์, อลัน บอลล์ และ โคลิน ฮาร์วีย์ เป็นกำลังสำคัญซึ่งทั้ง 3 พาทีมครองแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษได้อีกครั้งในฤดูกาล 1962-1963 ก่อนที่ แฮร์รี แคตเทอร์ริค จะลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมเนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ
หลังจากนั้น บิลลี บิงแฮม ได้ทำหน้าที่ผู้จัดการทีมแทน แคตเทอร์ริค แต่เอฟเวอร์ตัน ก็ไม่เคยคว้าแชมป์ได้เลยตลอดระยะเวลา 3 ปีที่คุมทีม จนในที่สุดบอร์ดบริหารได้ตัดสินใจปลด บิงแฮม ออกจากตำแหน่ง และแต่งตั้ง กอร์ดอน ลี มารับตำแหน่งแทน แต่ผลงานโดยรวมของ เอฟเวอร์ตัน ก็ไม่ดีขึ้นแต่งอย่างใด
ในช่วงทศวรรษที่ 1980-1990 เป็นการกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งของทีมสีน้ำเงิน เมื่อ ฟิลิป คาร์เตอร์ เข้ามารับตำแหน่งประธานสโมสร แทนที่จอห์น มัวร์ส และได้ดึง โฮเวิร์ด เคนดัลล์ เป็นผู้จัดการทีม โดยที่ เคนดัลล์ นำความสำเร็จมาสู่เอฟเวอร์ตันอีกครั้ง โดยพาทีมคว้าแชมป์ เอฟ เอ คัพ ในปี 1984 และสามารถเอาชนะลิเวอร์พูลในศึกแชริตี้ ชิลด์ ปีถัดมายังได้แชมป์ดิวิชั่น1 มาครอง ในปี 1984-1985 โดยทิ้งลิเวอร์พูลอันดับ 2 ถึง 13 แต้ม และคว้าแชมป์ยูโรเปียนส์คัพวินเนอร์คัพมาครอง ด้วยการ ถล่มบาร์เยิร์น มิวนิค 3-1
ทศวรรษที่ 1990 เอฟเวอร์ตัน ได้มีการเปลี่ยนแปลงประธานสโมสรอีกครั้งโดยมี ปีเตอร์ จอห์นสัน เข้ามาบริหารงาน และได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมเป็น โจ รอยส์ , โคลิน ฮาร์วีย์ และ โฮเวิร์ด เคนดัลล์ ซึ่งทั้งหมดคือดีตนักเตะของทีมนั่นเอง แต่ผลงานของทีมก็ไม่ดีขึ้น ซึ่งตลอดระยะเวลาดังกล่าวทีมได้แชมป์ เอฟ เอ คัพ ในปี 1995 เท่านั้น
จนกระทั่งปี 1999 บิลล์ เคนไรท์ ได้เข้ามารับตำแหน่งประธานสโมสรและได้แต่งตั้ง วอลเตอร์ สมิธ เป็นผู้จัดการทีม จนถึงปี 2002 เอฟเวอร์ตัน ก็ได้ตัว เดวิด มอยส์ เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ โดยในฤดูกาลแรก เดวิดมอยส์ พาเอฟเวอร์ตัน หนีตกชั้นได้สำเร็จโดยจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 15 ฤดูกาลต่อมาก็พาทีม สร้างผลงานอันสุดยอดโดยการ จบฤดูกาลด้วยอันดับ 7
แม้ว่าฤดูกาลต่อมานักเตะจะเล่นด้วยความรู้สึกเหมือนไร้หัวใจ จนเกือบตกชั้นโดยมีคะแนนอยุ่เหนือโซนตกชั้น เพียง 3 คะแนน และเริ่มฤดูกาล 2003-2004 โดยการสูญเสียดาวยิงที่เป็นความหวังของทีม อย่าง เวน รูนี่ย์ ไปให้แก่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แต่เดวิดมอยส์กลับสร้าง เซอร์ไพรส์ ด้วยการพาทีมจบฤดูกาล ด้วยอันดับที่ 4 คว้า ตั๋วใบสุดท้าย ไปเล่น แชมเปียนส์ลีกรอบคัดเลือก
ฤดูกาล 2004 - 2005 นั้นไม่เป็นอย่างที่หวัง เพราะเอฟเวอร์ตันออกตัวได้อย่างย่ำแย่ โดยไม่เหลือเค้าทีมที่เคยคว่าอันดับ 4 เมื่อฤดูกาลก่อน จนมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเดวิดมอยส์ และเสียงเรียกร้องจากแฟนบอลทั่วโลกให้ปลดมอยส์ออก
กระทั่งฤดูกาล 2023-2024 “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ตัดสินใจปลดกุนซืออย่าง "แฟรงค์ แลมพาร์ด" ตำนานดาวเตะทีมชาติอังกฤษ พร้อมประกาศแต่งตั้ง "ฌอน ไดซ์" อดีตกุนซือเบิร์นลีย์ เข้ามากุมบังเหียนด้วยสัญญาเบื้องต้นถึงปี 2025 เพื่อกู้วิกฤติพาทีมดิ้นรนหนีตกชั้น หลังจาก ผลงานของทีมจากย่านเมอร์ซีย์ไซด์ไม่สู้ดีเอาเสียเลย ซึ่งนัดสุดท้ายที่พวกเขาเอาชนะคู่แข่งได้คือในเกมที่พบกับ คริสตัล พาเลซ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมปีที่แล้ว