"นายกฯ"เซ็นตั้ง"คกก.กระตุ้นเศรษฐกิจ" สร้างความเชื่อมั่น-กระตุ้นใช้จ่าย-วางรากฐานดิจิทัล "จุลพันธ์" ตอกย้ำ ดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 2 ไม่ล่ม! ยันเดินหน้าตามแผนเดิม เพราะรัฐบาลเตรียมงบประมาณไว้ 1.8 แสนล้านบาท ด้าน "จิรายุ" เผยเอกชนขานรับแจกเงินหมื่นกลุ่มเปราะบาง หนุนกระตุ้นเศรษฐกิจ แนะรัฐออกนโยบายต่อเนื่อง

 เมื่อวันที่ 19 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อเป็นการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ สามารถสร้างความเชื่อมั่น และกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ควบคู่กับการบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย และเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบางเป็นลำดับแรก และผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะเป็นการนวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงการพัฒนาศูนย์ข้อมูลภาครัฐ ที่มุ่งการพัฒนานโยบายที่ตอบสนองความต้องการของประชาชน พร้อมทั้งเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุน เพื่อการพัฒนาหมู่บ้าน ชุมชน และการประกอบอาชีพ
 สำหรับคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นรองประธานกรรมการ คนที่ 1นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นรองประธานกรรมการ คนที่ 2 นายพิชัย ชุณหวิชร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นรองประธานกรรมการ คนที่ 3 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นรองประธานกรรมการ คนที่ 4

 นอกจากนี้ ยังมีคณะกรรมการ ประกอบด้วย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์, น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง, นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง, เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี, ปลัดกระทรวงมหาดไทย, เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา, เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.), ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ, ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), ประธานสมาคมธนาคารไทย, ประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ, ปลัดกระทรวงการคลัง, ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และประธานกรรมการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล


 ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดดังกล่าวมีหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย วัตถุประสงค์โครงการ แนวทางการดำเนินโครงการ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการ และแหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมถึงกำกับดูแล ติดตาม และตรวจสอบการดำเนินโครงการในภาพรวมให้เป็นไปตามที่ ครม. มีมติเห็นชอบ เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และกำกับ ติดตาม ขับเคลื่อนและเร่งรัดส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจบรรลุผลสำเร็จ เป็นไปตามที่ ครม. มีมติเห็นชอบ
 
นอกจากนี้ ยังมีอำนาจหน้าที่ในการติดตามและประเมินผลทั้งก่อนและหลังการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อรายงานต่อคณะรัฐมนตรี ตลอดจนรวบรวมและจัดทำรายงานผลการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องใช้ประโยชน์ในการเผยแพร่และสร้างการรับรู้ของประชาชน และกำหนดแนวทางการจัดทำฐานข้อมูล รวมถึงการดำเนินการรวบรวม ใช้ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลเพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นต้น
    
 วันเดียวกัน นายจุลพันธ์ อมรวิวิฒน์ รมช.คลัง กล่าวยืนยันว่า รัฐบาลยังเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตต่อเนื่องในเฟส 2 หลังมีกระแสข่าวความไม่แน่นอนของโครงการ อันเนื่องจากเลื่อนวันประกาศผลผู้ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการในกลุ่มผู้มีสมาร์ทโฟนออกไปจากวันที่ 22 ก.ย. อย่างไม่มีกำหนด รวมทั้งเลื่อนการเปิดลงทะเบียนของกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนออกไปเช่นกัน


 "ยืนยันว่ายังแจกตามแผน เพราะรัฐบาลเตรียมงบประมาณไว้ 1.8 แสนล้านบาท โดยจะเป็นการแจกในรูปของดิจิทัลวอลเล็ต ตามเป้าหมายเดิมที่รัฐบาลวางไว้ เพราะนอกเหนือจากความต้องการที่รัฐบาลจะกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ยังต้องการวางรากฐานไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลด้วย" 
    
 ด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ขอบคุณภาคธุรกิจที่ให้คำแนะนำในการปรับรูปแบบกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดีและเหมาะสมกับสภาวะการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศไทย เพื่อให้ได้ประโยชน์มากที่สุดกับคนไทย เช่น นายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ที่ให้ความเชื่อมั่นต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลมอบเงิน 10,000 บาท ให้กลุ่มเปราะบางจำนวน 14.55 ล้านคน เป็นกลุ่มแรก โดยเชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 นี้ได้
 
ส่วนคำแนะนำว่าในระยะยาวรัฐบาลควรออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ ควบคู่ไปด้วยนั้น รัฐบาลน้อมรับเพราะอยู่ในนโยบายเร่งด่วนแล้ว และตั้งใจที่จะเร่งดำเนินนโยบายกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศตามแผนงานที่วางไว้ ดังเช่นที่ได้ดำเนินการมาตลอดตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และมุ่งมั่นที่จะดำเนินการต่อไปจนเห็นผลสำเร็จ ซึ่งเชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะทำให้เกิดการกระตุ้นทางเศรษฐกิจมากขึ้นจากการใช้จ่ายของประชาชน
    
 ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ช่วงกระทู้ถามสด น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน(ปชน.) ตั้งคำถามต่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่ปรับเป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ ที่ตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลไม่แจ้งรายละเอียดที่ชัดเจนกับผู้ได้รับสิทธิทำให้เกิดความยุ่งยากและสร้างความเดือดร้อนกับประชาชน นอกจากนั้นการลงทะเบียนในกลุ่มของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการซึ่งยังไม่มีความชัดเจน
   
  ตนขอให้ตอบชัดๆ ว่าจะแจกเมื่อไร กี่ครั้ง กี่คน และกี่บาท การเลื่อนครั้งนี้จะเลื่อนถึงเมื่อไร หากดูสถานการณ์การชี้วัดตัวไหนอีก ขอให้บอกให้ชัด ไม่ให้ประชาชนเกิดความหวังลมๆ แล้งๆ เป็นคนมีสิทธิ กลุ่มเปราะบางและไม่เปราะบางรวม 40 ล้านคน แต่งบประมาณขณะนี้มี 3.4 แสนล้านบาทเท่านั้น
   
  ขอถามต่อว่าระบบการชำระเงินที่เป็นหัวใจหลักของกระเป๋าเงินถูกยกเลิกการประกวดราคา 27 ส.ค. เพราะไม่มีบริษัทใดที่ยื่นเสนอราคา เท่ากับว่าระบบชำระเงินไม่เริ่มประกวดราคา และพิมพ์เขียวที่จะส่งให้ธนาคารพาณิชย์พัฒนาระบบยังไม่ทำ และไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ทั้งนี้อุปสรรคที่จะไม่ได้จากดิจิทัลวอลเล็ต คือการเข้าไม่ถึงบัญชีเงินฝากของบุคคล เพื่อกรองคนที่ได้สิทธิ ทำให้ต้องเลื่อนการประกาศสิทธออกไปแบบไม่มีกำหนด
    
 ขณะที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ได้ชี้แจงว่า เหตุผลที่แจ้งรายละเอียดล่าช้าเพื่อรอกระบวนการทางกฎหมายที่ชัดเจน ส่วนการผูกพร้อมเพย์นั้นที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนตนขออภัย ทั้งนี้การผูกพร้อมเพย์นั้น ผู้พิการที่ได้รับเงินรายเดือนและมีกระบวนการโอนเงินผ่านช่องทางที่สมบูรณ์ ส่วนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.5 ล้านราย มีผู้ได้สิทธิซ้ำผู้พิการ 1.1ล้านราย ทั้งนี้มี 1 ล้านรายที่ไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ ทั้งนี้รัฐบาลจะเพิ่มการประชาสัมพันธ์ให้ดีมากขึ้น
   
  สำหรับเฟสถัดไปในกลุ่มที่เหลือ ยืนยันทำดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อได้ประโยชน์ในวางโครงสร้างพื้นฐานของดิจิทัลของรัฐ ทั้งนี้ข้อท้วงติงต่อการผูกพันงบประมาณข้ามปี รัฐบาลมั่นใจว่าสามารถทำได้ แต่ไม่ต้องการให้เกิดปัญหาถูกร้องเรียนเกิดขึ้นเนื่องจากในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน ไม่ใช่เป็นความเสี่ยงของรัฐบาลเท่านั้น แต่กระทบต่อปากท้องของประชาชน เพราะความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาลชุดใดๆ สังคมไม่มั่นใจในการลงทุน การใช้สอย เป็นผลเชิงลบของระบบเศรษฐกิจ ทั้งนี้วิธีนี้ขจัดข้อสงสัยของฝ่ายค้านและสังคม ดังนั้นเชื่อมั่นให้ระบบเศรษฐกิจไทยเดินหน้าเข้มแข็ง
   
  นายจุลพันธ์ ชี้แจงต่อคำถามขอความชัดเจนในโครงการและการลงทะเบียนว่า ในส่วนของเฟสสอง มีงบอยู่ที่ 1.87 แสนล้านบาท ทั้งนี้มีการลงทะเบียนแล้ว 36 ล้านคน แต่ยังไม่ได้คัดกรอง ต้องรอกระบวน 2-3 อย่าง ทั้งนี้กลุ่มที่ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนมีประมาณ 4 ล้านราย โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเปราะบาง ดังนั้นตัวเลขที่ตรวจสอบแล้วจะเป็นตัวเลขที่ชัดเจน ทั้งนี้งบที่มีอยู่ หากขาดอีกไม่มาก จะดำเนินการเพื่อจ่ายในทีเดียว แต่หากไม่พออาจจะแบ่งยอด เดิมกระตุ้นครั้งเดียวก้อนใหญ่ เพื่อให้เป็นแรงกระแทกสูง เมื่อโครงการปรับเป็นระลอก ต้องรักษาแรงเหวี่ยงของเศรษฐกิจให้เดินหน้าเข้มแข็ง ดังนั้นต้องรอความชัดเจนของการลงทะเบียน เบื้องต้นจะอยู่ในกรอบเดือนต.ค.
 
    รมช.คลัง ชี้แจงต่อประเด็นการประกาศผู้ได้รับสิทธิว่าระบบชำระเงินคือพีจีเอ ตนรับทราบแต่ไม่ได้เกี่ยวข้องในขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้าง ทั้งนี้ตามที่มีคนบอกว่ามีการล็อกคนไว้แล้ว แต่เมื่อเกิดขึ้นจริงเห็นว่าไม่มีการล็อก และโปร่งใส การเปิดประมูลนั้นเลื่อนออกไป อย่างไรก็ดีการเชื่อมวอลเล็ตกลางต้องการเชื่อมธนาคารของรัฐ แต่ต้องเลื่อนเพราะเปลี่ยนรัฐบาล
    
 ทั้งนี้ ตั้งเป้าเสร็จปลายปี แต่ต้องเลื่อนไปหลังปีใหม่ ยอมรับความจริงในกระบวนการของสภาฯ เลือกนายกฯ ตั้งกรรมการชุดใหม่ กระทบพัฒนาระบบในบางมิติ แต่การพัฒนาซอฟต์แวร์ของรัฐสามารถเดินหน้าต่อไป ซึ่งการพัฒนาระบบชำระเงินเดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรม จะเสร็จในเร็ววัน แต่ที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นากยฯให้ข้อคิดไว้คือต้องเพิ่มระยะเวลาทดสอบ ตรวจสอบให้ละเอียดว่าระบบเพย์เมนต์กลางไม่มีปัญหาด้านใดๆ