"เรืองไกร" ยื่นร้อง "ปปช." ให้ตรวจสอบ "สส.บุญยิ่ง" พรรคพลังประชารัฐ ส่อผิดจริยธรรมหรือไม่ ปมคดีระบายมันฯ จีทูจี

 เมื่อวันที่ 19 ก.ย.67 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบ นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี พรรคพลังประชารัฐว่ามีพฤติการณ์ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ข้อ 8 หรือไม่ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1. เมื่อวันที่ 16 ก.ย.67 เว็บไซต์สำนักข่าวอิศรา หัวข้อ เบื้องลึก! มติ ป.ป.ช.ชี้มูลคดีทุจริตระบายมันฯจีทูจี 'บุญยิ่ง' ส.ส.พปชร.โดนด้วย -ลูกสาวรอด ลงข่าวไว้ส่วนหนึ่ง ดังนี้

 "คณะกรรมการป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติดังนี้ 3.การกระทำของนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา  และกลุ่มเอกชน ที่ร่วมกระทำความผิด มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 4 และมาตรา 11 และมาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86

 ทั้งนี้ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 4 ได้ขาดอายุความแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39 (6) ให้ยุติการดำเนินคดีอาญาตามฐานความผิดดังกล่าว"

 ข้อ 2. จากการชี้มูลตามข่าวดังกล่าว มูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 11 และมาตรา 12 บัญญัติว่า" มาตรา 151 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท"

 "มาตรา 11 เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐผู้ใด หรือผู้ได้รับมอบหมายจาก หน่วยงานของรัฐผู้ใด โดยทุจริตทำการออกแบบ กำหนดราคา กำหนดเงื่อนไข หรือกำหนดผลประโยชน์ตอบแทน อันเป็นมาตรฐานในการเสนอราคาโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันใน การเสนอราคาอย่างเป็นธรรม หรือเพื่อช่วยเหลือให้ผู้เสนอราคารายใดได้มีสิทธิเข้าทำสัญญา กับหน่วยงานของรัฐโดยไม่เป็นธรรม หรือเพื่อกีดกันผู้เสนอราคารายใดมิให้มีโอกาสเข้าแข่งขัน ในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท"

 "มาตรา 12 เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทำการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ มีความผิดฐานกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท"
 
ข้อ 3. การกระทำของนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 และมาตรา 12 จึงอาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม ข้อ 8 ตามมาได้อีกด้วย
 
ข้อ 4. มาตรฐานทางจริยธรรม ข้อ 8 กำหนดว่า "ข้อ 8 ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ เพื่อตนเอง หรือผู้อื่น หรือมีพฤติการณ์ที่รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ"

 ข้อ 5. ดังนั้น กรณีตามข้อเท็จจริงที่สำนักข่าวอิศรานำมาลงในส่วนของนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ปัจจุบันเป็น สส.ราชบุรี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ และประธานคณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ที่ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 11 และมาตรา 12 นั้น จึงมีเหตุอันควรขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบกรณีดังกล่าวเพิ่มเติมว่า การกระทำดังกล่าวของนายบุญยิ่ง นิติกาญจนา จะมีผลทำให้เป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม ตามมาด้วยหรือไม่

 ข้อ 6. เนื่องจากสำนวนคดีเป็นของ ป.ป.ช. ซึ่งควรทราบรายละเอียดดีแล้วนั้น และเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ขอให้นำคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีจริยธรรมและคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม มาประกอบการพิจารณาด้วย