เมื่อวันที่ 19 ก.ย.67 นายชินวัฒน์ ตั้งสุทธิจิต กรรมการและรองเลขาธิการมูลนิธิสโมสรมิตรภาพวัฒนธรรมสากล  โพสต์เรื่อง "เนินทรายครวญทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยว" พร้อมเล่าว่า ทะเลสาบจันทร์เสี้ยว หรือ เย่ว์หยาเฉวียน โอเอซิสกลางทะเลทรายที่ตั้งอยู่กลางทะเลทราย นั่งรถออกจากจากเมืองอยู่ห่างจากเมืองตุนหวงไปเพียง 5 กิโลเมตร ในมณฑลกานซู ทางภาคตะวันตกของประเทศจีน เริ่มจากขี่อูฐชมทะเลทราย แล้วเดินมาตามทางจะพบกับทะเลสาบรูปร่างคล้ายพระจันทร์เสี้ยว ถูกล้อมรอบไปด้วยเนินทราย ที่มีความยาว 300 เมตร ความกว้าง 50 เมตร และมีความลึกถึง 5 เมตร ทางทิศใต้เป็นที่ตั้งของวิหารเจ้าแม่ ศาลเจ้าพญามังกร รวมไปถึงหอน้ำพุหยก อีกทั้งบริเวณโดยรอบยังรายล้อมไปด้วยต้นไป๋หลาง

ทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยว หรือที่เรียกกันว่า ทะเลสาบเยวี่ยหยา (月牙泉) ซึ่งแต่เดิมมีชื่อว่า บ่อทราย (沙井) และ บ่อโอสถ (药泉)

เสน่ห์อย่างหนึ่งของทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยวแห่งนี้ก็คือ ทิศทางของกระแสลมที่ไม่เคยพัดลงด้านล่างล่าง แต่กลับพัดขึ้นด้านบนอยู่เสมอตามหลักทฤษฎีกลศาสตร์อากาศ และด้วยเหตุนี้เองทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยว จึงไม่เคยถูกเม็ดทรายถมจนหายไป รวมถึงเรื่องน่าอัศจรรย์อีกอย่างก็คือ พื้นที่ราบระหว่างหุบเขานั้น เมื่อมีลมพัดผ่านเนินทรายจะมีปรากฏการณ์เสียง จึงได้ชื่อเรียกอีกอย่างว่า “หมิงซา” หรือ “ทรายร้อง”

ปรายตาท่ามกลางฝนโปรยจางมองคลื่นเมฆคลื่นน้ำ ฉ่ำกระไอสันทรายสูงอากาศละไมละมุน  ผู้คนเริงเล่นที่คลื่นทรายพลิ้วเส้นเป็นภูทรายน้อยภาพรอยทางครั้งอดีตบนเส้นทางนี้  ทรายก็ครวญเหมือนคำกวีที่แว่วมาในใจกับเสียงใครบ้างคน ที่โคจรอยู่ประจำใจที่มิจางแม้ห่างเหินกันมากมายดุจเม็ดทรายที่เล็กจ้อยแต่ก็แกร่ง

 

 

ขอบคุณ เฟซบุ๊ก ชินวัฒน์ ตั้งสุทธิจิต