ชุมพร รวบทันควันหนุ่มตัวตึงสองพี่น้อง จอมโจรขโมยดะ ล่าสุดดอดเข้าไปลักเครื่องใช้ไฟฟ้าในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

วันที่ 19 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ธเนศ มีทอง ผกก.สภ.สลุย  อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้รับแจ้งจาก นายหนูไกร วงธรรม กำนัน ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ว่าได้มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์สินภายในอาคารสำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.วิจิตร สามัญเมือง สว.สืบสวน สภ.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมชุดปฏิบัติการร่วม ประกอบด้วย ร.ท.มานะ ขำบุรี หน.ชป.กร.กกล.เทพสตรี และ นายสมพูล มีสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้าน พร้อม นายราม หมวดภักดี ผช.ผญบ.ม.1 ต.สองพี่น้อง เดินทางไปตรวจสอบพร้อมพนักงานสอบสวน สภ.สลุย
     

ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบบริเวณประตูอาคารสำนักงานถูกงัดเปิดจนพังเสียหาย และภายในอาคารพบว่า เครื่องขยายเสียง ยี่ห้อ PK Audio สีดำ ,คอมเพรสเซอร์แอร์ ยี่ห้อ SUMSUNG และคอมเพรสเซอร์แอร์ตู้เย็น หายไป นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่าสายไฟฟ้านอกและในอาคารบางจุดถูกตัดไปอีกด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บพยานหลักฐานต่างๆเพื่อรวบรวมนำไปสู่การติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้
    

ในขณะที่ทาง พ.ต.ท.วิจิตร สามัญเมือง สว.สืบสวน สภ.สลุย พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สามฝ่าย รุดไปยังบ้านผู้ต้องสงสัย รายหนึ่ง ซึ่งมีบ้านผู้ต้องสงสัยรายนี้อยู่ใกล้กับโครงการพระเทพฯ ชื่อ นายธวัชชัย หรือหนุ่ม อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 547 ม.4 ต.สองพี่น้อง  อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร โดยมีพฤติกรรมในการก่อเหตุ ลักทรัพย์สินต่างๆ ในพื้นที่อยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะสายไฟในที่สาธารณะ และของชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ช่วยกันติดตามสอดส่อง เพื่อหาตัวผู้ก่อเหตุให้ได้ โดยสืบทราบและเฝ้าติดตามพฤติกรรม ซึ่งเคยมีพฤติการณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอยู่ก่อนหน้านี้   
     

โดยบ้านเป้าหมายเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ด้านหน้าของบ้านเป็นโรงเรือนกว้างขวาง ปลูกท่ามกลางบ้านเรือนของชาวบ้าน เจ้าหน้าที่พบตัวนายธวัชชัย กำลังนั่งอยู่บริเวณโต๊ะไม้หน้าบ้าน โดยบนโต๊ะพบเครื่องขยายเสียง เสียง ยี่ห้อ PK Audio สีดำ ซึ่งต่ออยู่กับลำโพงประดิษฐ์เองตั้งวางอยู่บนโต๊ะนั้น  โดยทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองซึ่งเคยมาใช้บริการของอาคารในโครงการพระเทพฯ จำได้ว่าเป็นของโครงการพระเทพฯที่หายไป 
         

สอบถาม นายธวัชชัย ยออมรับว่า เป็นเครื่องขยายสียงที่ตนเองเข้าไปขโมยมาจากอาคารในโครงการพระเทพฯ จริง แล้วนำมาต่อลำโพงฟังเพลงที่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเข้าทำการตรวจค้นภายในบ้าน เพื่อหาทรัพย์สินที่หายไป จนพบว่า คอมเพรสเซอร์แอร์ ยี่ห้อ SUMSUNG และคอมเพรสเซอร์แอร์ตู้เย็น แอบซุกซ่อนอยู่ในบ้าน และยังตรวจค้นกระเป๋าสะพายของนายธวัชชัย พบอาวุธมีดขนาดเล็กอยู่ในกระเป๋า จำนวน 1 เล่ม สอบถามให้การว่ามีดดังกล่าวนั้นตนเองได้เอาไว้ใช้ตัดสายไฟ  

เจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาสอบปากคำเพิ่ม โดยในเบื้องต้นจากการสอบสวน นายธวัชชัย ให้การรับสารภาพว่า ของกลางทั้งหมดนั้น ตนเองได้เข้าไปลักมาจากในอาคารโครงการพระเทพฯ จริง โดยเดินเท้าจากบ้านแล้วมุดรั้วลวดหนาม จากนั้นได้เข้าไปในอาคารนำสิ่งของออกมา นำกลับมาไว้ที่บ้านและสิ่งของและลวดทองแดงที่ได้มาจะนำไปขายที่บริเวณร้านค้าของเก่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่มาบอำมฤต อ.ปะทิว จ.ชุมพร เพื่อนำได้เงินมาก็เอามาใช้จ่าย 

เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา "ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือ ทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ หรือรับของโจร”ก่อนนำตัวทำแผนชี้จุดต่างๆที่ทิ้งของกลาง เส้นทาง ตามความสมัครใจเพื่อใช้ประกอบคำรับสารภาพ   ก่อนส่ง พงส. สภ.สลุย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป