สถานีเพาะชำกล้าไม้ตรัง เดินตามรอย “พ่อหลวง”“ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง” เพาะพันธุ์กล้าไม้แจกจ่าย “ไม้ใช้สอย ไม้เศรษฐกิจ เพิ่มพื้นที่สีเขียว” สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดตรัง สังกัดสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 (นครศรีธรรมราช) กรมป่าไม้ สวนพฤษศาสตร์เขาช่อง เทือกเขาบรรทัด ต.ช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง และอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติ เข่าปู่ เขาย่า รอยต่อระหว่างจังหวัดตรัง และพัทลุง เป็นผืนป่าขนาดใหญ่ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรป่าไม้ ป่าต้นน้ำ สัตว์ป่านานาชนิด จึงเป็นที่เหมาะสมสำหรับใช้เป็นสถานที่ตั้งของหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลด้านทรัพยากรธรรมชาติเป็นอย่างมาก ที่นอกจากจะช่วยในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้แล้ว ยังเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ ประชาชน รักและหวงแหนทรัพยากรป่าไม้ที่มีอยู่ให้คงอยู่กับธรรมชาติอย่างยั่งยืน ที่ผ่านมานอกจาก สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดตรัง จะเป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการเพาะพันธุ์กล้าไม้ บริการประชาชน หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น แล้ว ยังเป็นหน่วยงานที่ปฎิบัติหน้าที่เดินตามรอยการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของ “องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หัว” พ่อหลวงของแผ่นดินอีกด้วย นางโสภี บริสุทธิ์ นักวิชาการป่าไม้ ชำนาญการ ทำหน้าที่หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดตรัง เล่าให้ฟังว่า ทางสถานีเพาะชำกล้าไม้ตรัง สังกัดสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 (นครศรีธรรมราช) กรมป่าไม้ ที่แนวทางการดำเนินงานการปฎิบัติงานยึดตามแนวทางพระราชดำริของ องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการส่งเสริมให้ประชาชนปลูกได้ประโยชน์ ปลูกป่า 3 อย่างได้ประโยชน์ 4 อย่าง คือ ไม้ใช้สอย ไม้กินได้ไม้เศรษฐกิจ โดยปลูกรองรับการชลประทาน ปลูกรับซับน้ำ และปลูกอุดช่วงไหล่ตามร่องห้วยโดยรับน้ำฝนอย่างเดียว ประโยชน์อย่างที่ 4 คือสามารถช่วยอนุรักษ์ดินและน้ำ ปลูกไม้ให้พออยู่ พอกิน พอใช้ และระบบนิเวศน์พออยู่ หมายถึง ไม้เศรษฐกิจปลูกไว้ทำที่อยู่อาศัย และจำหน่าย พอกิน หมายถึง ปลูกพืชเกษตรเพื่อการกินและสมุนไพรพอใช้ หมายถึง ปลูกไม้ไว้ใช้สอยโดยตรงและพลังงาน เช่น ไม้ฟืน, และไม้ไผ่ เป็นต้น ประโยชน์ต่อระบบนิเวศน์ สร้างความสมบูรณ์และก่อให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่า นางโสภี บอกให้ฟังอีกว่า ในแต่ละปี ทางสำนักงานได้รับงบประมาณการจัดทำกล้าไม้ ประมาณ 2แสนกล้า ต่อ่ปี เพื่อแจกจ่ายให้กับเกษตรกรทั่วไป หรือประชาชน และหน่วยงานต่างๆในพื้นที่จังหวัดตรัง ที่ผ่านมาการแจกจ่ายเป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากจังหวัดตรัง มีป่าไม้ และแหล่งผลิตเมล็ดไม้ที่สมบูรณ์ อีกทั้งยังมีเจ้าหน้าที่และคนงานที่มีประสบการณ์ในการหาเมล็ดพันธุ์ไม้เตรียมกล้าไม้เพื่อเพาะชำ ทำให้ไม่ขาดแคลนในเรื่องเมล็ดพันธุ์ไม้ต่อความต้องการของประชาชน “ทั้งไม้กินได้ ไม้ใช้สอย และไม้เพื่อการอนุรักษ์ รวมทั้งการปลูกป่าเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว อีกด้วยสำหรับกล้าไม้จะมี 2 แบบ คือกล้าไม้ที่เป็นกล้าไม้ท้องถิ่นของจังหวัดตรัง และกล้าไม้ที่ส่งเสริมให้ปลูกเพื่อประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ กล้าไม้จะมีทั้งไม้โตเร็ว อาทิ ไม้ดอก อาทิ ต้นศรีตรัง ราชพฤกษ์ เพื่อ หรือไม้กินได้ อาทิ ต้นเหรียง มะขาม ขี้เหล็ก ชะมวง ทำมัง ไม้โตช้า เช่น ตะเคียนทอง ประดู่ หลุมพอ ยางนา สักทอง จำปา ฮอกกานิ” นางโสภี เล่า นางโสภี บอกให้ทราบถึงเป้าหมายว่า เพื่อให้เกษตรกรได้กล้าไม้ตามความต้องการที่สามารเดินทางมารับได้ตลอดทั้งปีๆนี้มียอดกว่า 200 ราย สำหรับหลักเกณฑ์ในการรับกล้าไม้นั้น ประชาชนทั่วไปให้นำเอกสารสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมสำเนเอกสารสิทธิ์ที่ดินที่จะนำไปปลูกมายื่น หน่วยงานต่างๆของภาครัฐและเอกชน ในแนบสำเนาโครงการที่จัดทำรับรองโดยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อจะได้เก็บเป็นหลักฐานตามระเบียบการแจกจ่ายพันธุ์กล้าไม้ นางโสภี บริสุทธิ์ นักวิชาการป่าไม้ ชำนาญการ ทำหน้าที่หัวหน้าสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดตรัง ปัจจุบัน สถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดตรัง ยังคงดำเนินการเพาะพันธุ์กล้าไม้แจกจ่ายบริการประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมการปลูกพันธุ์ไม้ ใช้ผู้ที่มารับบริการได้นำไปใช้ประโยชน์อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นไม่ใช้สอย ปลูกเพื่อกิน ไม้เนื้อแข็ง ส่งเสริมการปลูกเพื่อเศรษฐกิจ ประการสำคัญ จะได้เป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ปลูกฝังที่ทุกคนหันมารักและหวงแหนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน จิรศักดิ์ จาตุพรพิพัฒน์ |ตรัง |รายงาน