จากกรณีเพจเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อ “อีซ้อขยี้ข่าว” ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า “ทะเบียนสมรสไม่มีความหมาย ! ต่อให้มีลูกด้วยกันแล้วไง ฉันไม่แคร์... สาวสุดช้ำถูกสามีนอกใจแอบไปคบหญิงอื่น ซึ่งทางนั้นก็รู้อยู่เต็มอกว่า ผู้ชายมีครอบครัวอยู่แล้ว แถมยังมีลูกน้อยวัยเพียง 8 เดือนด้วย ถึงแม้ทางภรรยาหลวง เคยโทรไปอ้อนวอน ขอร้อง ขอให้ทั้งคู่ยุติความสัมพันธ์กัน แต่กลับถูกฝั่งนั้นตอบกลับมาว่ายินดีเป็นน้อย พร้อมทั้งขึ้นสถานะกับฝ่ายชายว่ากำลังคบกันอยู่ ไว้เจอกันตอนเข้าเวร.. แต่ที่เจ็บสุดๆ ที่รับไม่ได้คือ การที่ทางนั้นยุให้ทางผู้ชาย ย้ายห้องออกไปอยู่ข้างนอก พร้อมท้าชนภรรยาหลวง ประมาณว่าเปิดศึกพร้อมแย่งชิง... ฝ่ายชายอยู่นนทบุรี เป็นข้าราชการ ฝ่ายหญิงย้ายกลับมาอยู่บ้านศรีสะเกษ” หลังข้อความถูกโพสต์ออกไปในสังคมออนไลน์ได้ไม่นาน ต่างมีชาวเน็ตแห่เข้ามาคอมเม้นแสดงความคิดเห็นกันไปต่างๆนานาเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปพบกับ น.ส.น้อย (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี บุคคลในภาพซึ่งเป็นภรรยาที่มีการจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย ชาว อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ กำลังอุ้มลูกน้อย เพศชาย วัย 8 เดือนเศษ อยู่บ้านตามลำพัง โดย น.ส.น้อย เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนได้คบกับ นายบอย (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี ชาว จ.นนทบุรี เมื่อประมาณปี 2564 และคบกันเรื่อยมา กระทั่งตนเริ่มตั้งครรภ์ จึงได้ตกลงกันไปจดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย เมื่อช่วงเดือน ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา และมีลูกน้อยด้วยกัน 1 คน
โดยขณะที่คบกันตนได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านของฝ่ายชาย ที่ จ.นนทบุรี ทำงานเป็นแม่บ้าน แอดมินเพจ และทำกราฟฟิก ส่วนฝ่ายชาย สามีตน ทำงานเป็นพนักงานดับเพลิง ของเทศบาลแห่งหนึ่ง ใน จ.นนทบุรี และใช้ชีวิตครอบครัวแบบปกติดี กระทั่งเมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา ตนเริ่มจับได้เพราะมีหญิงสาวคนหนึ่ง โทรเข้ามาตอนที่ตนอยู่กับสามี ซึ่งขณะนั้นแม่ของสามีตน ก็ได้ทักไปถามผู้หญิงคนนั้นว่าเป็นอะไรกัน เขาก็ตอบว่า ไม่ใช่ ไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ตนจับพิรุธได้ตั้งแต่เขาโทรมารอบแรก อีกทั้งผู้หญิงคนดังกล่าว ยังได้ป่าวประกาศขึ้นสถานะกำลังคบกันกับสามีตน ในแอพพลิเคชั่นหนึ่ง เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2567 ตนเป็นผู้หญิงตนรู้ว่าสามีตนแปลกๆไป และเริ่มมีเรื่องทะเลาะมีปากเสียงกันมาเรื่อย จนถึงขั้น ขึ้น กู มึง หลังจากที่ตนจับได้ว่าสามีตนแปลกๆไป สามีตนก็ขอย้ายไปอยู่ที่ทำงาน แต่แท้จริงแล้วสามีตนย้ายไปเช่าห้องอยู่ข้างนอก ทิ้งลูกเมีย แต่ก็ยังมีการมาขอเงินตนใช้อยู่หลายรอบ
ความรู้สึกตนนี้คือเสียใจมาก ที่มันทำให้เด็กคนหนึ่งเขาขาดครอบครัว มันเหมือนครอบครัวเราพังไปแล้ว ซึ่งตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ลูกถูกทอดทิ้งจากพ่อแม่ หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ อยากให้เขาทั้งชดใช้ค่าเลี้ยงดูและค่าเสียหายทั้งหมดทั้งสองคน และสามีตนก็ขู่ให้ตนไปฟ้องหย่า หรือฟ้องข้อหาอะไรก็ได้ตามใจ เพราะเหมือนเขาจะรู้ว่าตนไม่มีทางชนะ เพราะตนไม่มีเงินต่อสู้คดี หรือจ้างทนาย ตอนนี้ภาระค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูลูกตนก็รับคนเดียวทั้งหมด หลังเกิดปัญหา ปรากฏว่าฝ่ายหญิงคู่กรณี ก็ได้บล็อกเฟซ บล็อกไลน์ บล็อกทุกอย่าง ทุกช่องทางการติดต่อ จนไม่สามารถติดต่อได้
ตนคิดว่า ถ้าคนเราไม่ได้รักกันจริง ก็ไม่ควรจะไปจดทะเบียนสมรส และอยากให้เมียหลวงที่ถูกกระทำได้รับความเป็นธรรมบ้าง จากการที่มีทะเบียนสมรส และอยากฝากถึงคนที่ชอบไปเป็นเมียน้อยชาวบ้าน ให้ดูด้วยว่าเขามีทะเบียนสมรสหรือไม่ เพราะมันจะต้องจ่ายมาเป็นเงิน ถ้าอยากได้ผัวเขา