"ชาวไบค์เกอร์" แห่ร้องโดนร้านบิ๊คไบท์ชื่อดังย่านห้วยขวางโกง-หลอกลงทุน-ฝากขายรถไม่ได้เงิน สูญนับ 10 ล้าน
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 ก.ย.67 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ.พาผู้เสียหายทั้งชาวไทยและต่างชาติ จำนวนกว่า 10 คน เดินทางเข้าพบ พงส.บก.ป.แจ้งความกรณีได้รับความเสียหายจากร้านซ่อม มอเตอร์ไซค์แห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง-สุทธิสาร เจ้าของร้าน 2 ผัวเมียแสบท้าให้แจ้งความ เพราะไม่กลัวรู้จักตำรวจ ผู้เสียหายไปแจ้งความตำรวจ บางนายถามว่าแจ้งความเขาได้อย่างไร และตำรวจบางรายบอกร้านนี้อีกแล้ว แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผู้เสียหายเลยเกรงกลัวอิทธิพล เลยต้องมาขอให้ ตร.กองปราบช่วยมีการฉ้อโกงหลากหลายรูปแบบ ทั้งร้านบิ๊คไบท์ ได้เปิดเพจเฟซบุ๊กแรกเริ่มอยู่ย่านเหม่าจ๋าย ก่อนจะย้ายมาที่สุทธิสาร เปลี่ยนชื่อเพจใหม่ แต่ให้ญาติที่เป็นน้องสาวกับสามีมารับช่วงต่อ โดยใช้ช่างซ่อมรถชุดเดิมทั้งหมด
นาย เอ้ อุดม (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ทำธุริจส่วนตัว เดิมตนเป็นลูกค้าเอารถบิ๊คไบค์มาซ่อม ตั้งแต่ปี 62 ก่อน 2 ผัวเมียจะตีสนิทและชักชวนลงทุนรับจำนำรถบิ๊คไบท์ 6 คัน ให้ตนเอาเงินไปร่วมลงทุน 5.5 แสนบาท ผ่านไป 3 เดือน 2 ผัวเมียมารับสารภาพว่าบิ๊คไบค์ทิพย์ ไม่มี รถ จยย.จริง ก่อนจะขอผ่อนเงินคืนเดือนละ 1 หมื่นบาท ตนไม่เอา จึงตั้งทนายฟ้องฉ้อโกง เมื่อปลายปี 62 สู้คดีมา 4 ปี จนเมื่อ 23 ก.ค.67 ศาลฎีกาตัดสินลงโทษจำคุก 2 ผัวเมียคนละ 30 เดือน แต่ทั้งคู่ให้การรับสารภาพ ศาลจึงลดโทษจำคุกเหลือ 15 เดือน ก่อนจะให้น้องสาวรับช่วงทำร้านบิ๊คไบค์ที่สุทธิสารต่อ ซึ่งได้โพสต์ในเพจว่า ร้านเขาไม่เกี่ยวข้องกับสองผัวเมียเจ้าของร้านเดิมทำให้ผู้เสียหายที่ถูกโกงด้วยสารพัดวิธี เข้าไปแสดงความเห็นต่อว่าในเพจ จนผู้เสียหายติดต่อหากันและรวบรวมผู้เสียหายพบว่ามีจำนวนกว่า 30 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
ส่วน ผู้เสียหายคนอื่นๆ ก็จะโดนร้านบิ๊คไบค์ แห่งนี้ฉ้อโกง ยักยอก ต่างๆนาๆ บางคนฝากขายรถ จยย. เมื่อขายได้แล้ว บ่ายเบี่ยงไม่จ่ายเงินให้เจ้าของรถ จยย. บางคนขายอะไหล่ บิ๊คไบค์แต่ไม่ได้ของ บางคนโดนโกงร้านขายอะไหล่ โดยที่บางรายมีการปลอมแปลงเอกสาร เจ้าของรถเพื่อนำรถ ไป จำนำ และขายต่อบางคนก็ถูกหลอกให้ลงทุน รับจำนำรถ บางรายหลอกขายรถมอเตอร์ไซค์ที่โอนไม่ได้ผู้เสียหายนำรถไปคืนแต่ไม่คืนเงินแจ้งความคดีไม่คืบหน้า มูลค่าความเสียหายประมาณ 9 ล้านบาท
มิสเตอร์ ยาน อายุ 42 ปี สัญชาติแอฟริกาใต้ หนึ่งในผู้ชาย เปิดเผยว่า ตนได้ไปซื้อเจ้ายอยอจากร้านดังกล่าวในราคา 40,000 บาทแต่เมื่อเอาไปโอนทะเบียนปรากฏว่าโอนไม่ได้สาเหตุมาจากมีการเปลี่ยนเลขตัวเครื่องยนต์ เมื่อเอารถไปคืนทางร้านก็ไม่ยอมจ่ายเงินคืนจึงได้มารวมตัวกับผู้เสียหายรายอื่น
นอกจากนี้ ยังมีแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. สุทธิสาร อีกหนึ่งรายชื่อพี่เหน่ง สะสมรถบิ๊กไบค์ไว้เป็นจำนวน 10 คันแต่เมื่อย้ายไปต่างจังหวัดจึงได้นำรถบิ๊กไบค์จำนวนหกคันไปฝากร้านดังกล่าวขายได้สี่คันเป็นเงิน 2.2 ล้านบาท พอไปทวงเงินกับทางร้านกลับไม่ยอมจ่ายเงินคืนให้จึงเอารถที่เหลือสองคันกลับคืน แจ้งความไว้แต่ว่าคดีมันก็ไม่คืบหน้า
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบพยานหลักฐานที่ผู้เสียหายแต่ละรายนำมาแสดงก่อนประสาน สน. ท้องที่ให้เร่งรัดดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป