บิ๊กป้อมส่ง ไพบูลย์ ฟ้องเอาผิดเด็จพี่-หมาแก่ 20 ก.ย.นี้ ปมดักฟังโทรศัพท์ ปล่อยคลิปหลุดเสียงลุงบ้านป่า  พริษฐ์ตอกย้ำจุดยืน ปชน.ไม่มีเจตนาเปลี่ยนแปลงการปกครอง รับประเทศมีปัญหาต้องรื้อครั้งใหญ่ วอนฝ่ายปฏิรูปอย่าตีตราเป็นพวกสุดโต่ง

     เมื่อวันที่ 18 ก.ย.67 นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค มอบหมายให้ตนดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีอาญากับ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ และนายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 21 เรื่อง ห้ามการดักฟังทางโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารใด ข้อ.2 ผู้ใดรับรู้ข้อความที่ได้มาจากการกระทำความผิด ใช้ประโยชน์หรือเปิดเผยข้อความนั้น ต่อผู้อื่นโดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
     จากกรณีที่เมื่อวันที่ 11 ก.ย. นายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ได้นำคลิปเสียงเสียงสนทนาของพล.อ.ประวิตรกับ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ได้มาจากการลักลอบดักฟังโดยโทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นใด เผยแพร่ผ่านรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และต่อมาเมื่อวันที่ 12 ก.ย.67 นายพร้อมพงศ์ได้นำคลิปลักลอบดักฟังเสียงสนทนาของพล.อ.ประวิตรกับนายสุทธิพงษ์นำมาใช้ประโยชน์หรือเปิดเผยคลิปลักลอบดักฟังเสียงสนทนาดังกล่าวต่อสื่อมวลชนและยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
     นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า การกระทำของนายพร้อมพงศ์และนายดนัยในการใช้ประโยชน์หรือเปิดเผยคลิปเสียงสนทนาดังกล่าวที่ได้มาจากการลักลอบดักฟังเป็นการฝ่าฝืนประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ห้ามการดักฟังทางโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารใด ทำให้พล.อ.ประวิตรได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียง จึงมอบหมายให้ตนดำเนินคดีอาญากับนายพร้อมพงศ์และนายดนัย ในฐานความผิดดังกล่าวจนถึงที่สุด โดยจะไปแจ้งความดำเนินคดีในวันที่ 20 ก.ย.นี้ ที่สน.หัวหมาก
     ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคประชาชน (ปชน.) แพ้การเลือกตั้งซ่อมส.ส.พิษณุโลก เขต 1 เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ให้กับพรรคเพื่อไทย ซึ่งหลายคนมองเพราะการปราศรัยของส.ส.คนหนึ่งระบุจะให้นำค่ายทหารในจังหวัดมาเป็นที่ทิ้งขยะ จนทำให้ฐานเสียงเกิดความไม่สบายใจ ว่า เหตุผลเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งจะสรุปว่าเป็นประเด็นใดประเด็นหนึ่งได้ เชื่อว่าประชาชนที่ออกไปใช้สิทธิ์แต่ละคนก็อาจจะมีปัจจัยที่แตกต่างกันไป ส่วนข้อกังวลเกี่ยวกับการบริหารจัดการขยะในจ.พิษณุโลกเราได้รับทราบข้อมูลมา และนายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ ผู้สมัครส.ส.พรรคประชาชน ก็ได้ชี้แจงไปแล้วข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
     ผู้สื่อข่าวถามว่า นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวพาดพิงพรรคประชาชนเป็นพรรคที่มีแนวความคิดปฏิวัติ ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันเป็นพรรคที่มีแนวความคิดปฏิรูป  นายพริษฐ์ กล่าวว่า มีการตีตราว่าเรียกเราพรรคปฏิวัติ และเรียกพรรครัฐบาลว่าเป็นสายปฏิรูป ส่วนตัวมองว่าคำว่าปฏิวัติขึ้นอยู่กับคนที่จะตีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครอง พรรคประชาชนก็ยืนยันว่าเราไม่เจตนา และจุดยืนเช่นนั้น แต่ว่าถ้าปฏิวัติจะหมายถึงการยอมรับว่าบางปัญหาในประเทศอาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เรื่องการศึกษาที่จะต้องมีการจัดทำหลักสูตรใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปฏิรูประบบราชการ ที่ต้องการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เราไม่ปฏิเสธ
     นายพริษฐ์ กล่าวว่า หลายเรื่องต้องมีการปฏิรูปครั้งใหญ่ เราไม่ได้มองว่าเจตนาของผู้พูดเป็นอย่างไร แต่เราต้องการจะชี้แจงจุดยืนพรรคประชาชนเป็นอย่างไร เราไม่มีเจตนาจะเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง แต่เราก็เห็นถึงความจำเป็นที่จะมีการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน และการแก้ปัญหาหลายอย่างครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ สังคม ส่วนการนิยามว่าพรรครัฐบาลเป็นพรรคปฏิรูปตั้งคำถามกลับไปว่า 1 ปีที่ผ่านมา ยังไม่เห็นการปฏิรูปโครงสร้างประเทศด้านไหนเลย ยกตัวอย่างเช่น 1.การปฏิรูประบบราชการ ในการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น 2.การศึกษา พบว่าการประเมินเด็กไทยลดลงเรื่อยๆ 3.การปฏิรูปกองทัพ


     ฝ่ายที่ไม่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง หรือกังวลใจที่จะเปลี่ยนแปลง มักจะพยายามใช้วิธีการไปตีตราพวกที่ต้องการเปลี่ยนแปลงว่าเป็นพวกสุดโต่ง เป็นสิ่งที่พวกเราเผชิญมาตั้งแต่ปี 2566 พรรคก้าวไกลได้รับความไว้วางใจมาเป็นอันดับหนึ่ง ผมไม่อยากเห็นการใช้ยุทธศาสตร์แบบนี้มากีดขวางการเปลี่ยนแปลง นายพริษฐ์ กล่าว
     ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำ บัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลประจำปี 2567 หรือโผทหาร ที่มีข่าวว่ายังไม่นิ่ง แต่ได้มีการเซ็นลงนามไปแล้ว ว่า โผทหารมีการพูดคุยกันต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเสร็จ หลังจากนั้นตั้งแต่ 10 โมงเป็นต้นไป เรามีอำนาจเซ็นคำสั่งต่างๆ ได้ โดยหลังเที่ยงวันนั้น ได้ดำเนินการหารือกับผู้นำเหล่าทัพทั้งหมดทันที แม้ว่าจะมาไม่ครบ แต่ก็ใช้วิธีวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ พร้อมยอมรับมีความล่าช้าบ้าง เนื่องจากเข้ามาภายหลัง แต่เรื่องนี้ดำเนินการมาตั้งแต่รัฐมนตรีคนก่อน เมื่อพ้นตำแหน่งไปในช่วงที่เรามีการถวายสัตย์ฯ ทำให้มีช่วงสุญญากาศ 2 วัน ดังนั้นเมื่อเข้ามาแล้วก็ขอดูรายละเอียดก่อน และฟังความเห็นจาก ผบ.เหล่าทัพ เรื่องหลักเกณฑ์การพิจารณาต่างๆ ว่ามีข้อแตกต่างข้อยกเว้นอะไรหรือไม่ จะได้มีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ที่มีการเปลี่ยนจริงๆก็คือ กองทัพบก กับ กองทัพเรือ แต่คิดว่าน่าจะจบภายในสัปดาห์นี้


     ส่วนเรื่องร้องเรียนคุณธรรมจริยธรรมที่มีบัตรสนเท่ห์ออกมานั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า พูดในภาพรวม เพราะในช่วงที่มีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ จะมีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้น บางแห่งก็มีมากมีน้อย แตกต่างกันไป ไม่อยากให้เอาสิ่งเหล่านี้ไปเชื่อหรือเป็นข่าวมาก เพราะจะทำให้เกิดความร้าวฉาน ความไม่สบายใจ หรือไม่เข้าใจกัน ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ต้องยืนอยู่บนข้อเท็จจริง