เมื่อวันที่ 18 ก.ย.67 ที่ศาลปกครองกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้เดินทางมาพร้อมกับตัวแทนชาวบ้านริมคลองมหาสวัสดิ์ เขตตลิ่งชันและสมาคมชาวเรือโดยสารบริการนักท่องเที่ยว เพื่อยื่นฟ้องผ็ว่าฯ กทม. และผอ.สำนักการโยธา กทม.ฐานกระทำละเมิดอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย ตาม ม.9 (3) แห่ง พรบ.จัดตั้งและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการที่กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการโยธา ได้ใช้อำนาจทางปกครองในการอนุญาตและรับมอบสะพาน ค.ส.ล.ข้ามคลองมหาสวัสดิ์ ใกล้วัดชัยพฤกษมาลา ซึ่งเป็นโบราณสถานของชาติ โดยผู้ประกอบการเรียลเอสเตรทชื่อดังได้สร้างขึ้น เพื่อเอื้อประโยชน์ในการขายหมู่บ้านจัดสรรของตน โดยโฆษณาว่าใช้เป็นทางลัดจากฝั่งนนทบุรีมายังฝั่งกรุงเทพฯได้สะดวก แต่ทว่าการออกแบบสร้างสะพานดังกล่าวบริเวณปลายสะพานกลับก่อสร้างให้หักโค้ง เพื่อเลี่ยงที่ดินเอกชนอื่น มีการตัดแนวฟุตบาทให้แคบลง ขาดความลาดเอียงไม่เป็นไปตามมาตรฐานวิศวกรรม จนก่ออุบัติเหตุบ่อยครั้ง และที่สำคัญบริเวณกลางสะพานเริ่มทรุดตัวตกท้องช้าง ตอม่อเริ่มแตกร้าว สร้างความเสี่ยงอันตรายและความเดือดร้อนให้กับชาวชุมชนชัยพฤกษ์ 33 แยก 4 และใกล้เคียงอย่างมาก จนชาวบ้านนำคดีไปฟ้องศาล กระทั่งศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาให้เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างสะพานทั้งหมดดังกล่าวแล้วตั้งแต่ 19 ก.ย.66 แต่ กทม.กลับนิ่งเฉย
การอนุญาตก่อสร้างสะพานดังกล่าว ผิดกฎหมายหลายฉบับและสร้างความเดือดร้อนและเสียหายต่อชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวอย่างรุนแรง โดยชาวบ้านพยายามร้องขอให้ผู้ว่าฯกทม.เข้ามารับผิดชอบต่อการใช้อำนาจทางปกครองในทางละเมิดของตน และรีบเร่งในการรื้อถอนสะพานดังกล่าวออกไปเสีย แต่ทว่าผู้ว่าฯกทม.และ ผอ.สำนักโยธากลับเพิกเฉย ชาวบ้านที่เดือดร้อนและเสียหายจึงรวมตัวกันมาขอให้สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนช่วยเป็นธุระในการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองในวันนี้ เพื่อเรียกค่าเสียหายรวมประมาณ 4,245,200 บาท และดอกเบี้ยอีกร้อยละ 7.5 ต่อปี ตั้งแต่วันฟ้องคดีไปจนกว่าคดีจะถึงที่สุดหรือจนกว่าจะชำระเสร็จ รวมทั้งให้เร่งรื้อถอนสะพานดังกล่าวออกไปเสียด้วย นายศรีสุวรรณกล่าวในที่สุด