ชาวบ้านแก่งเสี้ยนกาญจน์ เดือดร้อนหนัก ต้องทนดมกลิ่นเหม็นแสบจมูกจาก 2 โรงไฟฟ้าชีวมวลมานานนับปี รวมตัวยื่นหน้งสือ ผวจ.สั่งการ นอภ.ลงพื้นที่ตรวจสอบ ยันหากยังแก้ไขอะไรไม่ได้ เตรียมยื่น ปปช.ลงพื้นที่ตรวจสอบความเหม็น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่กลุ่มตัวแทนชาวบ้านหมู่ที่ 5 ตำบลแก่งเสี้ยน ประมาณ 30 คน ทนความเหม็นแสปจมูกมานานหลายปี จึงได้มีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานหลายหน่วย แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น แรกๆ กลิ่นได้หายไปประมาณ 1 อาทิตย์  ต่อมากลิ่นเหม็นก็กลับมาเหม็นเหมือนเดิม และเหม็นหนักกว่าเดิมจึงรวมตัวเตรียมเข้าร้องกับหน่วยงานในส่วนกลาง หากเรื่องดังกล่าวทางจังหวัดยังแก้ไขอะไรไม่ได้

ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมชั้นสอง ที่ว่าการอำเภอเมืองกาญจนบุรี นายสมบูรณ์  แผนสมบูรณ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ได้เชิญชาวบ้านแก่งเสี้ยน หมู่ที่ 5 ประมาณ 30 คน ซึ่งที่ได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่นเหม็นจากการประกอบกิจการโรงงานผลิตและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าชีวมวล

โดยนางสมจิตร ชนะเลิศ ชาวบ้านหมู่ที่ 5 ตำบลแก่งเสี้ยน พร้อมด้วย นางสาวสุกัลญา ไผ่สอาด ชาวบ้านหมู่ 5 ตำบลแก่งเสี้ยน และตัวแทนชาวบ้านหมู่ที่ 5 ประมาณ 30 คน เข้าพบกับ นายสมบูรณ์  แผนสมบูรณ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี เพื่อให้ข้อมูลความเดือดร้อนจากกลิ่นเหม็นของโรงไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งทางผู้เดือดร้อนแจ้งว่าก่อนหน้านี้ มีหลายหน่วยงานได้เข้าไปตรวจสอบแล้ว และมีการแก้ไขกลิ่นก็หายไปได้ระยะหนึ่ง แต่หลังจากไม่นานกลิ่นก็มาส่งกลิ่นเหม็นเหมือนเดิม ทางชาวบ้านได้สอบถามไปยังโรงไฟฟ้า ได้รับแจ้งมาว่าเกิดผ้าใบที่หมักก๊าซเกิดมีรูรั่ว กำลังเร่งดำเนินการแก้ไข  ซึ่งปัญหาดังกล่าวมักจะเกิดขึ้นเป็นช่วงๆ ส่วนใหญ่จะเป็นช่วงเวลากลางคืน  กลิ่นเหม็นส่งไปไกลนับสิบกิโลเมตร  โดยเฉพาะบริเวณแยกแก่งเสี้ยน ซึ่งมีแหล่งพักรถ มีร้านกาแฟ ก็มีนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดไปพักทานกาแฟ ได้กลิ่นเหม็น ได้มีการสอบถาม แต่ประชาชนบริเวณดังกล่าวไม่สามารถตอบได้ว่ากลิ่นนั้นมาจากที่ใด และเป็นกลิ่นอะไร ซึ่งเรื่องนี้อาจจะส่งผลกระทบ กับการท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี  ก็ได้ในอนาคต และกลิ่นจะรุนแรงมากคือในจุดใกล้เคียงกับโรงงาน จนชาวบ้านที่อยู่ใกล้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง รวมถึงเด็กเล็ก ประสบปัญหาด้านระบบทางเดินหายใจกันเป็นจำนวนมาก

และเมื่อ นายสมบูรณ์  แผนสมบูรณ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี  ได้รับฟังความเดือดร้อนในเรื่องนี้ ก็ได้แจ้งกับตัวแทนชาวบ้านว่า เรื่องนี้พอจะทราบว่า ประชาชนเดือดร้อน ยังมีการร้องเรียนอยู่ ทางจังหวัดจึงได้สั่งการให้ทางอำเภอเมืองเข้าไปดูแลตรวจสอบข้อเท็จจริง ดังนั้นเมื่อทางจังหวัด ได้มอบหมาย ซึ่งทางอำเภอ ก็จะต้องขอเวลา 1 อาทิตย์ ในการตรวจสอบเรื่องนี้ จากนั้นก็จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมถึงเจ้าของกิจการโรงไฟฟ้า มาประชุมร่วมกัน เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาให้ชุนชน กับผู้ประกอบกิจการอยู่ได้อย่างมีความสุข

"ซึ่งเรื่องนี้ นายสมบูรณ์  แผนสมบูรณ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี แจ้งกับกลุ่มชาวบ้านว่า ตนเอง อยู่มาหลายพื้นที่เคยเจอปัญหาเช่นนี้มาบ้าง แต่ก็ได้เจรจาเพื่อหาข้อยุติให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้ไม่ให้เกิดการแตกแยก  และยังเปรียบเทียบอีกว่า เคยมีปัญหาคล้ายกันคือเพื่อนบ้านข้างเคียง มีหนูตาย แล้วส่งกลิ่นไปรบกวนบ้านข้างเคียงบ้านข้างเคียงก็มีการสอบถามไป แต่ได้รับคำตอบกลับมาว่า ให้บ้านข้างเคียงที่ได้กลิ่นหาเอง หากเป็นเช่นนี้มันก็จะอยู่กันอย่างไม่มีความสุข และเรื่องกลิ่นเหม็นของโรงงานแห่งนี้ ซึ่งมีพื้นที่หลายร้อยไร่ในการประกอบธุรกิจ แล้วชาวบ้านเกิดเดือดร้อน ทางโรงงานจะอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างไร เมื่อประกอบกิจการใหญ่โต ก็ต้องดูแลชุมชนไม่ให้เดือดร้อนด้วย เพื่อจะได้อยู่ร่วมกันต่อไปได้"นางสาวสุกัลญา กล่าวทิ้งท้าย