ป้าวัย 70 ปีที่เคยถูกมือปืนนามสกุลดังภาคใต้ คู่อริลูกชายมาถล่มยิงคาบ้านขณะล้อมวงกินข้าวเย็น ระบุถึงแม้เวลาจะผ่านไปนาน 6 ปี ยังจำแม่นและยังผวาเวลามีรถยนต์วิ่งผ่านหน้าบ้าน ยิ่งมาทราบว่าตำรวจยังจับไม่ได้และไปก่อเหตุอีกที่ภาคใต้ รู้สึกไม่มั่นใจตัวเองอยากจะให้ตำรวจรีบจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด
วันที่ 18 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากกรณีมีชายไม่ทราบชื่อ ก่อเหตุใช้เหล็กขูดชาร์ป แทงนายสมศักดิ์ ภายในร้านกัญชา ที่ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี แล้วยังไล่ทำร้ายเพราะไม่หนำใจ และย้อนมาจะทำร้ายเจ้าของร้าน และทราบต่อมาว่าคนก่อเหตุคือนายภานุกร วิชัยดิษฐ์ หรือนุ อายุ 28 ปี อยู่หมู่ที่ 5 ต.ดอนสัก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี และเป็นคนที่เคยก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงถล่มบ้านคู่อริ ที่ อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ หวังจะฆ่ายกครัว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ก.ย.2561 เวลาประมาณ 19.30 น.ระหว่างครอบครัวนี้กำลังนั่งล้อมวงกินข้าวเย็น เหตุการณ์ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต 1 รายคือนายคำจันทร์ น้องชายเจ้าของบ้าน และมีนางสมหมาย เจ้าของบ้านได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ส่วนสามีเจ้าของบ้านวิ่งหลบได้ทัน สาเหตุมาจากลูกชายเจ้าของบ้านไปมีเรื่องกับมือปืน ซึ่งตอนเกิดเหตุลูกชายเจ้าของบ้านไม่อยู่บ้าน
ล่าสุดนางสมหมาย อายุ 70 ปี ผู้บาดเจ็บในครั้งนั้น เล่าว่าตอนนั้นตนอายุได้ 64 ปีระหว่างที่ตนกับสามีและน้องชายนั่งล้อมวงกินข้าวเย็นกันอยู่นั้น ได้มีรถเก๋งมาจอดหน้าบ้าน หลังจากนั้นได้ยินเสียงปืนดังสนั่นหลายนัด สามีกระโดดออกจากหน้าต่างไปก่อน ส่วนตนกับน้องชายหนีไม่ได้นอนทับกันอยู่วงกับข้าว หลังเสียงปืนสงบ ตนรู้สึกเจ็บแขนมาดูพบถูกยิงที่แขนขวา ชาวบ้านนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนน้องชายเสียชีวิต สาเหตุที่มือปืนมายิงเพราะต้องการมาล้างแค้นลูกชายที่ไปมีเรื่องกันก่อนหน้านั้น
นางสมหมาย เล่าด้วยว่าหลังจากเกิดเหตุมาจนถึงปัจจุบัน ตนยังจำเหตุการณ์ได้อย่างแม่นยำ และยังผวาอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะตอนที่มีรถยนต์วิ่งผ่านหน้าบ้าน จะรีบลุกขึ้นมองซ้ายขวา นอกจากจะผวาแล้วกระสุนที่มือปืนยิงยังฝังอยู่ในร่างกายหมอผ่าตัดออกไม่ได้เพราะใกล้กับปอด เหมือนเตือนตัวเองเสมอว่าให้ระวัง ซึ่งหลังเกิดเหตุไม่เคยทราบข่าวว่าคดีไปถึงไหนอย่างไร คิดว่าจับตัวได้แล้ว จนกระทั่งมีตำรวจมาบอกว่าคนที่เคยยิงตน ไปก่อเหตุที่ภาคใต้ ยอมรับว่ายิ่งผวาตอนนี้อยากให้ตำรวจจับตัวให้ได้เพราะเป็นบุคคลอันตราย และไม่อยากให้ตำรวจกลัวคนที่นามสกุลดัง หรือนักการเมือง